Subaru สหรัฐฯ เปิดตัวสมาชิกรายล่าสุดของตระกูล Wilderness ในชื่อ Subaru Crosstrek Wilderness เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2023 มาพร้อมกับการตกแต่งพิเศษ อย่างตัวถังสีน้ำเงิน Geyser Blue ที่สงวนไว้ให้ตระกูลนี้โดยเฉพาะ เสริมด้วยกันชนหน้าหลังทรงใหม่, กระจังหน้าหกเหลี่ยมกรอบหนา, โป่งล้อรอบคันที่ใหญ่ขึ้น, กบประตูโลหะ, ไฟตัดหมอก LED ทรงเฉพาะรุ่น, ราวหลังคา และกราฟฟิกบนฝากระโปรงสีดำลดการสะท้อนแสง
ล้อ Subaru Crosstrek Wilderness มีขนาด 17 นิ้ว สีดำด้านลายพิเศษ รัดด้วยยาง all-terrain ตัวอักษรสีขาวรุ่น Yokohama GEOLANDAR ห้องโดยสารหุ้มเบาะด้วยวัสดุกันน้ำ Subaru StarTex และปักชื่อรุ่นบนพนักพิง ด้านการตกแต่งมีทั้งสีทองแดง copper, สีเทา Gunmetal Grey และกราฟฟิกเฉพาะรุ่นบนหน้าจอแสดงผล ส่วนหน้าจอสัมผัสมีขนาด 11.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
ขุมพลังของ Subaru Crosstrek Wilderness เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบนอน Direct Injection ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 239 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ซึ่งผ่านการปรับอัตราทดเกียร์สุดท้ายใหม่จากเดิม 3.700 เป็น 4.111 ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อม X-Mode
ช่วงล่างของ Subaru Crosstrek Wilderness เปลี่ยนสปริงและโช๊คอัพใหม่ให้ยาวขึ้น ความสูงจนเพิ่มขึ้นจากเดิมมากกว่าครึ่งนิ้วจนมี Ground Clearance 239 มิลลิเมตร เพิ่มมุมไต่จากเดิม 18.0 เป็น 20.0 องศา และเพิ่มมุมจาก จากเดิม 19.7 เป็น 21.1 องศา ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี EyeSight รวมถึงระบบลดความเร็ว โดยอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน และระบบหักพวงมาลัยหลบในกรณีฉุกเฉิน ที่ความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Subaru Crosstrek Wilderness มีกำหนดการเริ่มส่งมอบในฤดูใบไม้ร่วง หรือราวเดือนกันยายน – พฤศจิกายนนี้ ส่วนการผลิตจะมีขึ้นที่โรงงานใน Indiana สหรัฐฯ ร่วมกับสมาชิกตระกูล Wilderness รุ่นอื่นๆ สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่น 31,995 USD (ราว 1,090,000 บาท) หากจ่ายเพิ่มอีก 2,270 USD (ราว 77,000 บาท) จะได้ option เพิ่มเป็นหลังคา moonroof, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า และเครื่องเสียงพร้อมลำโพง Harman Kardon
ที่มา: Subaru