ในงานประชุมแถลงการณ์เปลี่ยนชื่อ Alfa Romeo Milano เป็น Alfa Romeo Junior เพื่อเลี่ยงข้อพิพาทกับภาครัฐของอิตาลี ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ Carlos Tavares ตำแหน่ง CEO ของ Stellantis ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเด็นที่น่าสนใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับว่ามีการติดต่อจากค่ายรถอื่น ขอซื้อต่อแบรนด์ย่อยในเครือซึ่งไม่ได้มีแค่แบรนด์เดียว และการปฏิเสธข่าวลือที่ว่าบริษัทจะหันหลังให้กับอิตาลี

เปิดประเด็นแรกกันก่อน Tavares ให้สัมภาษณ์ว่ามีทีมผู้บริหารแนะนำเขา ให้ฆ่าแบรนด์รถยนต์บางแบรนด์ในปี 2021 ซึ่งเกิดขึ้นหลังเครือ PSA Group รวมกับ Fiat Chrysler Automobiles ได้ไม่นาน โดยเขาไม่ได้ปฏิบัติตาม แถมในช่วงนั้น ยังได้รับข้อเสนอจากแบรนด์คู่แข่งสัญชาติตะวันตกขอซื้อต่อแบรนด์ Alfa Romeo ด้วย ซึ่งเขาบอกเลยว่าแทบจะตอบกลับทันทีเลยว่า ล้อเล่นหรือเปล่า พร้อมทั้งปฏิเสธข้อเสนอ

 

Tavares ให้เหตุผลว่า Alfa Romeo ถือเป็นแบรนด์ที่มีค่ามากที่สุดจากแบรนด์ที่ถืออยู่ 14 แบรนด์เลยทีเดียว ต่อมา ในปี 2023 มีบริษัทรถยนต์จีนซึ่งเขาไม่ขอเปิดเผยชื่อ ติดต่อหาเขาขอซื้อต่อแบรนด์รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเขาไม่เปิดเผยอีกเช่นเคย แต่ในเครือมีอยู่ 3 แบรนด์ด้วยกัน ประกอบด้วย DS Automobiles, Citroen และ Peugeot โดยค่ายจีนเขาว่าแบรนด์นี้ขายไหม แน่นอนว่าเขาปฏิเสธไม่ขายไปเช่นเคย

สำหรับประเด็นสุดท้ายเรื่อง Stellantis จะหันหลังให้อิตาลีรวมถึงแบรนด์ Fiat ผู้บริหารรายเดิมระบุว่าเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะบริษัทมีแผนลงทุนในอิตาลีมูลค่า 5,000 ล้านยูโร (ราว 196,000 ล้านบาท) ซึ่งจะนำไปสู่การผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ 15 รุ่น จาก 2 platform แบบใหม่ล่าสุด ทั้งยังมีแผนการตั้งโรงงานแบตเตอรี่แห่งใหม่ที่นี่ด้วย ก่อนเขาจะทิ้งท้ายว่า “จุดยืนผมชัดเจน ทั้งหมดที่คนอื่นพูดกันเป็นเพียงข่าวปลอมทั้งสิ้น”

 

ที่มา: carscoops


อ่านข่าว ภาครัฐอิตาลีเผย การที่ Alfa Romeo Milano ผลิตในโปแลนด์ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-minister-said-building-alfa-romeo-milano-in-poland-is-illegal/