Renault Rafale E-Tech 4×4 Atelier Alpine เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2024 โดยเป็นการนำรุ่น E-Tech hybrid 200 แรงม้า ที่มีอยู่มาต่อยอดเป็นขุมพลัง PHEV โดยไม่ใช่เพื่อความประหยัดเท่านั้น แต่ยังมีพละกำลังที่แรงมากขึ้นอีก 100 แรงม้า เสริมด้วยการตกแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงปรับแต่งการขับขี่ใหม่หมดภายใต้ความร่วมมือของ Alpine ตามที่ตั้งชื่อรุ่นตาม

Renault Rafale E-Tech 4×4 Atelier Alpine โดดเด่นจากรุ่นอื่นด้วยสีพิเศษเฉพาะรุ่น กับสีน้ำเงิน Satin Summit Blue เสริมด้วยสปอยเลอร์ใหม่ทรงยกตัวสีดำ Starry Black ล้อเป็นลายพิเศษ Chicane ขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยาง Continental ส่วนห้องโดยสารตกแต่งด้วยโลโก้ A และสีน้ำเงิน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอัตลักษณ์ของ Alpine

 

ขุมพลังของ Renault Rafale E-Tech 4×4 Atelier Alpine ปรับแต่งใหม่หมดจากรุ่น Hybrid ที่ต่อยอดเป็น PHEV เริ่มต้นกับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร เทอร์โบเปลี่ยนใหม่ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร เพิ่มจากของเดิมที่มี 130 แรงม้า 205 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยตัวแรกติดตั้งด้านหน้า 70 แรงม้า 205 นิวตันเมตร ตัวที่สองติดตั้งด้านหลัง 136 แรงม้า 195 นิวตันเมตร

ส่วนตัวที่สามเป็น HSG มอเตอร์รอง 34 แรงม้า 50 นิวตันเมตร ทั้งระบบกำลังสูงสุด 300 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ กระจายแรงบิดอย่างอิสระไปล้อหน้าหรือล้อหลังได้ 100% มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาด 22 kWh รองรับการชาร์จ 7.4 kWh ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.4 วินาที ไวกว่าเดิมที่ทำได้ 8.9 วินาที หากไฟเต็มแบตและเชื้อเพลิงเต็มถัง 55 ลิตร จะขับขี่ได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร

 

ช่วงล่างของ Renault Rafale E-Tech 4×4 Atelier Alpine ปรับแต่งใหม่หมดให้ได้ประสบการณ์การขับขี่แบบ Alpine โดยเปลี่ยนไปใช้ชิ้นส่วนพิเศษทั้งโช๊คอัพ, สปริง, ตัวเชื่อมต่อ และกันโครงหน้าหลัง ทั้งยังปรับ software เฉพาะทางหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างแบบ active ทำงานร่วมกับกล้องเพื่อปรับสภาพตามสภาพถนนเบื้องหน้า และระบบควบคุม Agility Control โดยเฉพาะ

ECU ยังปรับแต่งใหม่หมดโดยเฉพาะ ในส่วนของการตอบสนองการเบรก, ระบบนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่, ระบบควบคุมการทรงตัว และพวงมาลัยเพาเวอร์ Renault Rafale E-Tech 4×4 Atelier Alpine ยังมาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ ปิดท้ายด้วยการปรับแต่งการตอบสนองได้อย่างอิสระ ทั้งรูปแบบการขับขี่ 4 แบบ ระหว่าง Eco, Comfort, Sport และ MySense ทั้งยังปรับช่วงล่างแยกได้ 3 แบบระหว่าง Comfort, Dynamic และ Sport

 

ที่มา: Renault