Renault Mégane ส่งรุ่น Minorchange โดยมีการเพิ่มขุมพลัง Plug-in Hybrid และปรับปรุงตัวแรงในรหัส R.S. ให้มีพละกำลังสูงขึ้น เสริมด้วยการปรับปรุงหน้าตาและเพิ่มอุปกรณ์ภายใน ปิดท้ายด้วยสีตัวถังที่เพิ่มมาให้สามสี ประกอบด้วย สีเทา Highland Grey, สีเทา Baltic Grey และ สีน้ำตาล Solar Copper
ภายนอกของ Renault Mégane Minorchange ปรับเปลี่ยนไปใช้ไฟหน้า Full-LED ให้แสงสว่างมากกว่าเดิม 30% เมื่อเทียบกับไฟ Halogen แบบเดิม ทั้งยังเปลี่ยนไฟตัดหมอกและไฟท้ายเป็นแบบ LED ด้วย นอกจากนั้น ยังมีกันชนหน้าและล้อขนาด 16 – 18 นิ้วลายใหม่
ห้องโดยสารปรับไปใช้หน้าจอสัมผัส ขนาด 9.3 นิ้ว และยังมีมาตรวัดขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Renault EASY LINK เสริมด้วยแผงควบคุมระบบปรับอากาศชุดใหม่, กระจกมองหลังแบบไร้กรอบ, วัสดุหุ้มเบาะแบบใหม่ และ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
ขุมพลังของ Renault Mégane Minorchange ที่ปรับปรุงใหม่มีด้วยกันสองแบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
รุ่น Mégane E-TECH Plug-in
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว และแบตเตอรี่ขนาด 9.8 kWh กำลังสูงสุดทั้งระบบรวมกัน 160 แรงม้า (PS) สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุด 65 กิโลเมตร และใช้ความเร็วได้สูงสุด 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รุ่น Mégane R.S.
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบ Direct Injection กำลังสูงสุด 300 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดาและ 420 นิวตันเมตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
Renault Mégane R.S. มาพร้อมกับระบบ Sport 4CONTROL เพื่อปรับปรุงการตอบสนองของช่วงล่าง และยังมีรุ่นที่ดิบกว่าในรหัส Mégane R.S. TROPHY ที่จะเพิ่ม Torsen limited-slip differential มาให้ เสริมด้วยโช๊คอัพที่แข็งขึ้น 25%, สปริงที่แข็งกว่าเดิม 30% และ เหล็กกันโคลงที่เฟิร์มขึ้น 10% ทั้งหมดนี้เมื่อเทียบกับรุ่น Mégane R.S.
ด้านระบบความปลอดภัยเสริมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับที่สองมาให้ Renault Mégane Minorchange จะเริ่มออกจำหน่ายที่ยุโรปในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมิถุนายน – กันยายน และจะมีการเพิ่มขุมพลัง E-TECH Plug-in ให้กับตัวถัง Hatchback ในภายหลัง เพราะในตอนต้นจะมีให้ในตัวถัง Estate เท่านั้น
ที่มา : Renault