นับตั้งแต่มีสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ได้เกิดสภาวะแทรกแซงโดยภาครัฐอย่างหนัก จนนำไปสู่การถอนธุรกิจของบริษัทสัญชาติตะวันตกออกจากรัสเซีย ซึ่งมีบริษัทรถยนต์หลายค่ายรวมถึง Renault ซึ่งแม้จะเคยครองส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวราว 30% ก็ตามที ในตอนที่ Renault ถอนตัวออกจากรัสเซียได้ขายสินทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงโรงงานและหุ้นที่ Renault มีอยู่ 68% ใน AvtoVAZ ผู้ผลิตรถยนต์ Lada อีกด้วย ส่วนมูลค่าการซื้อขายที่ศูนย์วิจัยยานยนต์ NAMI ของรัสเซีย จ่ายให้กับ Renault คือ 1 รูเบิลเท่านั้น (ราว 30 สตางค์)

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าหากสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงสงครามดังกล่าว อาจทำให้ความขัดแย้งนี้จบลง จนกลายเป็นกระแสว่าบริษัทสัญชาติตะวันตกที่เคยถูกบีบให้ออกจากรัสเซีย อาจมีโอกาสกลับเข้าไปทำตลาดอีกครั้ง แต่ปฏิกริยาจากรัสเซียดูเหมือนว่าจะไม่ต้อนรับขับสู้เท่าใดนัก โดย Maxim Sokolov ตำแหน่ง CEO ของ AvtoVAZ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า มีราคาที่ต้องจ่ายหาก Renault จะกลับมา

 

Sokolov ระบุว่านับตั้งแต่ Renault ออกจากรัสเซียไป NAMI ได้ลงเงินมูลค่ามหาศาลกับ AvtoVAZ โดยมูลค่าการลงทุนในปี 2023 อยู่ที่ 27,500 ล้านรูเบิล (ราว 10,000 ล้านบาท) และเพิ่มเป็นเกือบ 40,000 ล้านรูเบิล (ราว 14,000 ล้านบาท) ในปี 2024 ทั้งยังมีแผนลงทุนมูลค่า 45,000 ล้านรูเบิล (ราว 16,000 ล้านบาท) ในปีนี้อีกด้วย ซึ่งมูลค่าการลงทุนดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยประจำปีที่ Renault ลงทุนใน AvtoVAZ ช่วงที่ยังถือหุ้นหลักอยู่ ซึ่งอยู่ที่ราว 20,000 – 22,000 ล้านรูเบิล (ราว 7,000 – 8,000 ล้านบาท)

Sokolov กล่าวเพิ่มว่ามูลค่าการลงทุนเหล่านี้จะต้องได้รับการจ่ายคืน ดังนั้นราคาที่ต้องจ่ายในการกลับมา จะไม่เท่ากับราคาที่ขายในมูลค่า 1 รูเบิล (ราว 30 สตางค์) ซึ่งคำนวณได้ว่าราคาขั้นต่ำที่ Renault ต้องจ่ายให้กับรัสเซีย หากต้องการกลับมาทำตลาดอยู่ที่ 112,500 ล้านรูเบิล (ราว 42,000 ล้านบาท) ด้าน Renault ระบุว่าไม่ขอแสดงความเห็นต่อสิ่งที่ AvtoVAZ กล่าว พร้อมระบุว่าไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง (ที่จะกลับไปทำตลาดที่รัสเซีย) ในอนาคตอันใกล้

 

ที่มา: reuters, carscoops