Proton S70 เปิดตัวที่มาเลเซียแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2023 โดยทางการระบุว่านี่คือ C-Seg Sedan แต่ราคาและขุมพลัง 1.5 ลิตรนั้น น่าจะอยู่ในกลุ่ม B-Seg Sedan อย่าง Toyota Vios และ Honda City มากกว่า สำหรับมิติตัวถังนั้น ถือว่าสูสีในกลุ่ม C-Seg Sedan ตามที่ค่ายวางตำแหน่งไว้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,602 x 1,809 x 1,466 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,627 มิลลิเมตร
ไฟหน้าของ Proton S70 เป็นแบบ LED DRL พร้อมเปิดปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อมกราฟฟิกเคลื่อนไหวได้ ล้อมีขนาด 16 – 17 นิ้ว ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 7 สี ประกอบด้วย สีขาว Snow White, สีเงิน Armour Silver, สีเทา Space Grey, สีแดง Passion Red, สีน้ำเงิน Marine Blue, สีเขียว Teal Bayou Green และ สีดำ Quartz Black โดยจะมีเพียงรุ่น Flagship เท่านั้นที่เลือกได้ทุกสี
Proton S70 ทุกรุ่นมาพร้อมกับเบรกมือไฟฟ้า, ช่องแอร์หลัง, กระจกไฟฟ้า Auto ทุกบาน และเบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตที่ยกปีกเบาะขึ้นมาสูง แตกต่างกันแค่วัสดุหุ้มเบาะระหว่างผ้าและหนัง รวมถึงระบบปรับไฟฟ้า ในรุ่นท็อปมีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการสั่งการด้วยเสียงและเชื่อมต่อระบบออนไลน์ ทั้งยังมีลำโพง 6 จุด, แท่นชาร์จไร้สาย และหลังคา Sunroof
ขุมพลังของ Proton S70 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 1,477 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 226 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ ถังน้ำมันความจุ 50 ลิตร ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam
Proton S70 ทุกรุ่นมาพร้อมกับทุกลมนิรภัย 6 จุด ส่วนในสองรุ่นท็อปจะมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชนด้านหน้า, ระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า พร้อมหยุดนิ่งและออกตัวใหม่เองได้, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา และระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน พร้อมระบบหน่วงพวงมาลัยกลับ สำหรับราคาจำหน่ายในมาเลเซียทั้ง 4 รุ่นย่อยมีดังต่อไปนี้
- Executive ราคา 73,800 ริงกิต (ราว 554,000 บาท)
- Premium ราคา 79,800 ริงกิต (ราว 599,000 บาท)
- Flagship ราคา 89,800 ริงกิต (ราว 675,000 บาท)
- Flagship X ราคา 94,800 ริงกิต (ราว 712,000 บาท)