Porsche Cayenne S Diesel ได้สร้างสถิติระดับโลก ด้วยการลากเครื่องบิน Airbus A380 ของสายการบิน Air France ซึ่งมีน้ำหนัก 285 ตัน เป็นระยะทาง 42 เมตร จนได้รับการบันทึกจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์เดิมๆจากโรงงาน ที่สามารถลากเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลกไปครอง
Porsche Cayenne คันที่ใช้ในการสร้างสถิตินี้ไม่ได้รับการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น และขับโดย Richard Payne ช่างเทคนิคของ Porsche สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกบยักษ์เข้ากับนกยักษ์ มีเพียงอุปกรณ์ลากจูงพิเศษที่ใช้ในการยึดเครื่องบิน เข้ากับจุดยึดสำหรับลากจูงเดิมโรงงานของ Porsche Cayenne และไม่ได้มีเพียง Porsche Cayenne S Diesel เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการลากจูงเครื่องบิน เพราะมีการนำ Porsche Cayenne Turbo S ที่มีแรงบิดน้อยกว่า มาทดสอบแบบเดียวกันด้วย และประสบความสำเร็จเช่นกัน
Payne ระบุว่า ไม่บ่อยนักที่ Porsche จะทำการทดสอบเพื่อค้นหาว่าขีดจำกัดรถยนต์ของพวกเขาอยู่ที่ไหน แต่ในครั้งนี้ Cayenne สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามันสามารถไปได้ไกลกว่าที่ลูกค้าคาดหวังแน่นอน และเขาขอยกเครดิตผลงานในครั้งนี้ให้กับทีมพัฒนารถยนต์จาก Stuttgart ผู้ที่ทำผลงานได้อย่างดี นอกจากนี้ เขาขอขอบคุณสายการบิน Air France รวมไปถึงทีมวิศวกร ที่ให้ความร่วมมือในการสร้างสถิติครั้งนี้
Porsche Cayenne S Diesel ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V8 4.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 390 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 86.67 กก-ม. (850 นิวตันเมตร) ที่ 2,000 – 2,750 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 252 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Porsche Cayenne Turbo S ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 4.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 81.57 กก-ม. (800 นิวตันเมตร) ที่ 2,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 284 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ยังมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ Porsche Cayenne Turbo S คันที่เข้าร่วมสร้างสถิติในครั้งนี้ ถูกขับมาจาก London ของประเทศอังกฤษ เพื่อมาสร้างสถิติลากเครื่องบินที่ Paris ของประเทศฝรั่งเศส ทั้งยังถูกขับกลับไปยังจุดเริ่มต้นโดยไม่มีปัญหาใดๆ ด้วย นับว่าเป็นบทพิสูจน์สมรรถนะและความทนทานของเจ้ากบยักษ์ได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว
ที่มา: newsroom.porsche