Porsche Cayenne GTS มีโฉม Facelift ตามมาแล้ว โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2024 มีให้เลือกทั้งตัวถัง SUV และ Coupé พร้อมผสานสมรรถนะระดับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงสมกับการที่ใช้ชื่อ GTS ซึ่งย่อมาจาก Gran Turismo Sport เข้ากับความอเนกประสงค์ของรถยนต์ SUV ที่ไปได้ทุกที่ จึงให้ได้ทั้งการขับขี่ที่แม่นยำและอรรถประโยชน์ที่ใช้งานได้ทุกวัน
Porsche Cayenne GTS Facelift มาพร้อมกับกันชนหน้าที่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบรมดำ ชิ้นส่วนตัวถังรอบคันมาในสีดำเงา High-Gloss Black รวมถึงสเกิร์ตข้าง, โป่งล้อ และคิ้วกระจก แต่ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเปลี่ยนไปใช้สีทองแดง Bronze ล้อเป็นลาย RS Spyder ขนาด 21 นิ้ว สีเทา Anthracite Grey ตัดด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ปิดท้ายด้วยโลโก้ GTS สีดำทั้งบนประตูคู่หน้าและฝาท้าย
ภายในของ Porsche Cayenne GTS Facelift เสริมปีกเบาะคู่หน้าที่ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ให้กระชับมากขึ้น ส่วนสัมผัสตรงกลางหุ้มด้วยวัสดุผ้าคล้ายหนังกลับ Race-Tex รวมถึงผ้าหลังคา, ที่วางแขน และแผงประตู พวงมาลัยเป็นแบบ GT sports ปรับอุณหภูมิได้ เครื่องเสียงเป็นของ BOSE Surround และมีระบบไฟ Ambient Lighting ส่วนโทนสีหลักมีให้เลือกสองแบบระหว่างสีแดง Carmine Red และสีเทา Slate Grey Neo
ขุมพลังของ Porsche Cayenne GTS Facelift เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 40 แรงม้า 40 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะที่ปรับแต่งใหม่ให้ตอบสนองไวยิ่งกว่าเดิม และเปลี่ยนเกียร์ไวขึ้นโดยเฉพาะในรูปแบบการขับขี่ Sport และ Sport Plus ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
Porsche Cayenne GTS Facelift ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 275 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้านระบบ Porsche Traction Management มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแยกต่างหาก ปรับแต่งจาก Turbo GT ช่วงล่างเตี้ยลงจากรุ่นปกติ 10 มิลลิเมตร พร้อมทั้งติดตั้ง Adaptive Air Suspension, Porsche Active Suspension Management และ Porsche Torque Vectoring Plus มาเป็นมาตรฐาน
โช๊คอัพของ Porsche Cayenne GTS Facelift เป็นแบบ two-valve พร้อมทั้งปรับมุมแคมเบอร์ล้อหน้าให้เป็นลบมากกว่า Cayenne รุ่นอื่น 0.58 องศา สำหรับผู้ที่สนใจมีแพคเกจไล่เบา Lightweight Sports Package ให้เลือกสามระดับโดยลดน้ำหนักได้สูงสุด 25 กิโลกรัม ในชุดมีทั้งหลังคาน้ำหนักเบา, ดิฟฟิวเซอร์คาร์บอน และลดวัสดุซับเสียง ทั้งสองตัวถังเปิดรับจองแล้ว และจะพร้อมส่งมอบที่ยุโรปตั้งแต่ฤดูร้อนนี้เป็นต้นไป หรือราวเดือนมิถุนายน – สิงหาคม
ที่มา: Porsche