การลงทุนมหาศาลในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่เพื่อการอนุรักษ์โลกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงผลกำไรที่จะกลับคืนมายังบริษัท และอาจสูงกว่าอัตราที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ทำได้ โดย Lutz Meschke ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Financial Officer ของ Porsche มั่นใจในทฤษฎีนี้พร้อมตั้งเป้าว่าสัดส่วนผลกำไรที่บริษัทได้จาก EV จะเทียบเท่ากันตัวเลขของ ICE ใน 2 ปีข้างหน้า
ผู้บริหารของ Porsche เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลกำไรของรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อลองเทคโนโลยีใหม่ และ Porsche ได้คาดการณ์ตลาดด้วยว่า ในปี 2030 ครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์หรูจะใช้ขุมพลังไฟฟ้า EV ซึ่งบริษัทต้องการเป็นผู้นำตลาดด้วยการตั้งเป้าให้ 80% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ Porsche เป็น EV ในปี 2031
อย่างไรก็ตาม รถยนต์รุ่นที่มีกำไรสูงที่สุดในปัจจุบันของบริษัทคือ Porsche 911 และมี EV ขายอยู่รุ่นเดียวซึ่งก็คือ Taycan โดยในอนาคตจะมีการขยาย line-up ไปยัง Macan EV ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2024 และยังมี SUV ขุมพลัง EV อีกรุ่นหนึ่งที่จะวางตำแหน่งทางการตลาดสูงกว่า Cayenne ที่อาจตามมาเสริมทัพในช่วงปี 2025