Nissan Note e-Power พึ่งจะเปิดตัวไปในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ทาง NISMO
ไม่รอช้านำ Note e-Power มาเสริมหล่อต่อทันที และในโอกาสเดียวกันนี้ NISMO ยัง
เปิดตัว Note NISMO และ Note NISMO S ที่มาพร้อมกับชุดแต่งชุดใหม่ ทั้งภายนอก
และภายใน รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเพิ่มมาด้วย
มาเริ่มต้นกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานให้กับ Note Nismo ทั้ง 3 รุ่นกันก่อน ซึ่ง
ประกอบไปด้วย กระจังหน้าทรง V-Motion, กันชนหลังพร้อมไฟตัดหมอก, สปอยเลอร์หลัง,
สเกิร์ตข้าง, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, ไฟหน้า LED Hyper DRL และเสาประตูสีดำ ส่วน
ภายในจะมีพวงมาลัย 3 ก้านเดินด้ายแดงหุ้ม Alcantara พร้อมขีดแดงระบุตำแหน่งตรงกลาง
ทั้งยังตกแต่งภายในด้วยสี Gun Metal Chrome
ทั้ง 3 รุ่นย่อย สามารถเลือกสีตัวถังได้ 5 สีประกอบไปด้วย Brilliant White Pearl, Super
Black, Brilliant Silver, Dark Metal Grey และ Garnet Red สำหรับรายละเอียดปลีกย่อย
ของ Note Nismo ในแต่ละรุ่นนั้นมีค่อนข้างมาก อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมมาให้ในแต่ละรุ่นจะถูก
นำเสนอโดยแบ่งตามรุ่นย่อย ดังต่อไปนี้
Note e-Power NISMO
ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร Miller Cycle Direct Injection ให้กำลัง
79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 99 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที
จับคู่กับ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ยกมาจาก Leaf รหัส EM57 ให้กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด
254 นิวตันเมตร ส่งกำลังลงล้อคู่หน้า เสริมด้วย Custom Tuning Computer (VCM)
ให้การตอบสนองของคันเร่งฉับไวมากกว่าเดิม
เอกลักษณ์ของ Note e-Power Nismo จะอยู่ที่เส้นสีฟ้าบริเวณกระจังหน้า และสัญลักษณ์
e-Power บริเวณประตูคู่หน้า ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบไปด้วย ล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง
Yokohama DNA S.drive และปลายท่อไอเสียขนาด 85 มิลลิเมตร ภายในมีแป้นเหยียบ
แบบสปอร์ต, กันเตะอลูมิเนียมแบบเดียวกับ Nismo S, มาตรวัดพร้อมตราสัญลักษณ์ Nismo,
เบาะพร้อมแผงประตูหุ้มหนัง Suede เดินด้ายแดง
Note NISMO
ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน HR12DDR ขนาด 1.2 ลิตร Supercharge พละกำลัง 98 แรงม้า
ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที)เสริมด้วย Custom
Tuning Computer (ECM) ส่งกำลังลงล้อคู่หน้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT
การตกแต่งภายนอกของ Note Nismo จะเหมือนกับ Note e-Power Nismo ทุกประการ
ยกเว้นเอกลักษณ์ของรุ่น e-Power ที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนจุดแตกต่างอื่นๆ คือการเปลี่ยนไป
ใช้ยาง Bridgestone Potenza RE080 ภายในจะใช้วัสดุผ้า Tricot ในการหุ้มเบาะและ
แผงประตูแทน
Note NISMO S
ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน HR16DE ขนาด 1.6 ลิตร พละกำลัง 140 แรงม้า
ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที) เสริมด้วย
Custom Tuning Computer (ECM) ส่งกำลังลงล้อคู่หน้า ผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ด้วยความที่เป็นตัวแรงสุดในรุ่นจึงมีอุปกรณ์มากกว่ารุ่นอื่น ทั้งกันชนหน้าทรงใหม่พร้อม
ช่องดักลมที่ใหญ่ขึ้น, ล้อขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง Bridgestone Potenza S007 และปลาย
ท่อไอเสียขนาด 100 มิลลิเมตร ภายในมีแป้นเหยียบแบบอลูมิเนียมสปอร์ต, กันเตะอลูมิเนียม,
มาตรวัดความเร็ว 260 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมตราสัญลักษณ์ Nismo, เบาะพร้อมแผงประตู
หุ้มหนัง Suede เดินด้ายแดง
นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับช่วงล่างแต่งพิเศษ, พวงมาลัยไฟฟ้าพร้อม Vehicle Speed
Sensing และเสริมเหล็กกันโคลงหน้ามาให้ด้วย (ยกเว้น Note Nismo ที่ไม่มีอุปกรณ์ชิ้นหลังสุด)
สำหรับระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งเพิ่มมาให้ใน Note Nismo และ Note Nismo S รุ่นใหม่
ประกอบไปด้วย ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking และระบบเตือน
เมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning
Nissan Note Nismo ทั้ง 3 รุ่นย่อยพร้อมออกจำหน่ายทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่
12 ธันวาคม เป็นต้นไป สำหรับราคาของแต่ละรุ่นมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
– Note e-Power NISMO ราคา 2,458,080 เยน หรือราว 749,000 บาท
(ราคา Note e-Power ปกติอยู่ที่ 1,772,280 – 2,244,240 เยน หรือราว
539,000 – 683,000 บาท)
– Note NISMO ราคา 2,094,120 เยน หรือราว 638,000 บาท
(ราคา Note ปกติอยู่ที่ 1,393,200 – 1,985,040 เยน หรือราว
424,000 – 604,000 บาท)
– Note NISMO S ราคา 2,328,480 เยน หรือราว 710,000 บาท
ที่มา : nissan-global, nissan.co.jp