NHTSA เป็นหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่คอยตรวจสอบความปลอดภัยบนท้องถนน ได้เสนอ
ให้ผู้ผลิตโทรศัพท์ Smart Phone พัฒนา Driver Mode ซึ่งทำงานคล้ายๆกับ Airplane Mode
ไว้ให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินใช้ แต่คราวนี้จะพัฒนามาให้คนขับรถยนต์ใช้งานแทน เพื่อลด
ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หลังจากที่สถิติได้บ่งชี้ว่า มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
จากการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับขี่มากขึ้นเรื่อยๆ

5696ff6d2e499.image

ทั้งนี้หน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า อยากให้ผู้ผลิตมือถือพัฒนา Driver Mode ไปใน
ทิศทางใด นอกจากระบุว่าอยากให้ Mode ดังกล่าวสามารถจำกัดการใช้งานบาง
application ระหว่างที่ขับรถยนต์ นอกจากนี้ NHTSA ยังหวังให้ผู้ผลิตรถยนต์ และ
ผู้ผลิตมือถือร่วมมือกันพัฒนาระบบที่สามารถเชื่อมต่อมือถือเข้ากับรถยนต์ได้อย่าง
ง่ายดาย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด คือการพัฒนา Android Auto และ Apple CarPlay
นั่นเอง

a851766091093a6c91b5ec232d511617

ภาพข้างบนได้แสดง สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเล่นโทรศัพท์มือถือ ระหว่างขับขี่
ซึ่งมีข้อมูลดังต่อไปนี้

– 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามวัย 16 – 24 ปีที่ขับรถ ยอมรับว่าพวกเขาเล่น
โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ

– 85% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่เป็นคนขับวัยรุ่น ยอมรับว่าการเล่นโทรศัพท์
มือถือระหว่างขับรถ เป็นปัญหา

– 77% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่เป็นคนขับวัยรุ่น มั่นใจว่าพวกเขาสามารถเล่น
โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ ได้อย่างปลอดภัย

 

อันที่จริง การเสนอ Driver Mode ครั้งนี้ เป็นแผนงานในระดับที่ 2 ของ NHTSA ที่
ตั้งใจจะลดปัญหาคนขับขาดสมาธิจากการขับขี่ ซึ่งในระยะแรกได้นำไปสู่การพัฒนา
ระบบนำทางของรถยนต์ ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานพิมพ์ข้อความใดๆในระหว่างที่รถยนต์
กำลังเคลื่อนที่

Distracted driving campaign March 2016

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตมือถือจะให้ความร่วมมือในการพัฒนา Driver Mode
จนเป็นรูปธรรมได้หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป แต่จะดีกว่านั้นมาก หากทำให้ผู้ใช้
รถยนต์ตระหนักถึงภัยที่เกิดจาการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับขี่ เพราะ คงไม่มีระบบอะไร
ห้ามไม่ให้คนขับหยุดใช้โทรศัพท์มือถือได้ หากคนขับไม่วางมือถือลงตอนขับรถด้วยตัวเอง

 

ที่มา : autoblog