หลังเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2017 ยอดขายสะสมทั้งหมดของ Mitsubishi Xpander ถึงเดือนตุลาคม 2021 อยู่ที่ 372,000 คัน ล่าสุด วันที่ 8 พฤศจิกายน 2021 ทางการได้เปิดเผยภาพบางส่วนพร้อมรายละเอียดของรุ่น Minorchange มาให้ชมกัน ซึ่งการปรับเปลี่ยนไม่ได้มีแค่หน้าตา แต่ยังมีอุปกรณ์ภายในและงานวิศวกรรมด้วย

Mitsubishi Xpander Minorchange คงเอกลักษณ์กระจังหน้า Dynamic Shield แต่ปรับองค์ประกอบใหม่รวมไปถึง ไฟหน้า LED โคมรูปตัว T แนวนอน ส่วนกันชนหน้าและกันชนหลังปรับใหม่เช่นกัน ไฟท้ายปรับกราฟฟิกใหม่ ทั้งยังเป็นแบบ LED รวมไปถึงไฟเบรกดวงที่ 3 ที่เป็นแบบ LED ด้วย ในรุ่นท็อปเพิ่มล้อลายใหม่ปัดเงา ขนาด 17 นิ้ว

สีตัวถังที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือ สีเงิน Blade Silver Metallic ส่วนสีอื่นมีสีขาว Quartz White Pearl, สีเทา Graphite Gray Metallic, สีดำ Jet Black Mica, สีแดง Red Metallic และ สีบรอนซ์ Deep Bronze Metallic ห้องโดยสารปรับใหม่หลายจุดเริ่มต้นกับสี Two-Tone เบจดำ เสริมความประณีตด้วยเบาะตัดเย็บลายข้าวหลามตัด ทั้งยังใช้หนังสังเคราะห์บุนุ่มและตะเข็บจริง ตกแต่งแผงประตู – ที่วางแขนกลาง

Mitsubishi Xpander Minorchange เปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ให้กระชับมือกว่าเดิม, มาตรวัด high-contrast กราฟฟิกใหม่, หน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศแบบใหม่ Liquid Crystal Display อ่านค่าง่าย, หน้าจอสัมผัสใหม่, และ สิ่งที่หลายคนรอคอยอย่างเบรกมือไฟฟ้าก็มาแล้ว ซึ่งพ่วงระบบ Brake Auto Hold ที่เบรกทำงานอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่ยกขาออกจากแป้นเบรกในขณะที่ติดไฟแดง

ด้านประโยชน์ใช้สอยมีการปรับใหม่เช่นกัน ทั้งคอลโซลกลางใหม่ที่ขยายขนาดให้วาง smartphone ได้, ที่วางแขนกลางขยายความจุจนใส่ขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร 4 ขวด, ช่องชาร์จไฟ USB type A – type C ด้านหลังที่วางแขนหน้า และ เพิ่มที่วางแก้วในที่วางแขนเบาะแถวที่ 2 ส่วนงานวิศวกรรมเปลี่ยนไปใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT และ เพิ่มระบบ EGR ภายนอกใหม่ ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิม

ช่วงล่างด้านหน้าของ Mitsubishi Xpander Minorchange ปรับจุดยึดใหม่, ขยายขนาดโช๊คหลัง และ ปรับไปใช้วาล์วสมรรถนะสูงทั้งด้านหน้า – ด้านหลัง ทั้งหมดเพื่อความนุ่มนวลที่ดีขึ้น ส่วน Ground Clearance ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT อยู่ที่ 220 มิลลิเมตร แต่รุ่นเกียร์ธรรมดาจะสูงขึ้นเป็น 225 มิลลิเมตร เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดระดับเดียวกัน ด้านความสูงใต้ท้องรถ

ที่มา: Mitsubishi