แรกเริ่มเดิมที MINI ยุคบุกเบิกมีความยาวไม่ถึง 3,100 มิลลิเมตร แต่ในปัจจุบันได้เติบโตขึ้นในทุกมิติ ทั้งยังมี MINI ร่างยักษ์อย่าง Clubman และ Countryman ให้เลือกอีกด้วย แต่ในอนาคต MINI อาจกลับไปมีขนาดเล็กลงดังเดิมให้สมกับชื่อ และอาจมีแต่ขุมพลังไฟฟ้า EV เพียงอย่างเดียว
Bernd Körber ผู้ดำรงตำแหน่ง Head of MINI ของ BMW Group ได้ให้สัมภาษณ์ว่า MINI ในอนาคตจะมีขนาดเล็กลง โดยอาจเล็กกว่ารุ่น 3 ประตู hatch ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการก้าวตามประวัติศาสตร์ของค่าย อีกทั้งการใช้ขุมพลังไฟฟ้า EV ยังไม่กินพื้นที่ ส่งผลให้เอื้อต่อการลดความยาวตัวถังลง ส่วนสาเหตุที่ MINI Cooper SE ขุมพลังไฟฟ้าคันแรกของค่าย ยังไม่มีขนาดเล็กลง เนื่องจากยังใช้ platform และตัวถังเดิม
Körber ระบุว่า MINI ในอนาคตจะเปลี่ยนไปใช้ platform ใหม่ ทำให้ย่อความยาวลงได้ และบริษัทจะมีทั้งขุมพลังไฟฟ้า EV และเครื่องยนต์ให้เลือก ไปจนถึงปี 2030 แต่หลังจากนั้นยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็น EV อย่างเดียวหรือไม่ ซึ่งความเห็นนี้สอดคล้องกับการที่ BMW จับมือ Great Wall Motor ตั้งโรงงานแห่งใหม่ในประเทศจีน เพื่อเตรียมผลิต MINI-e ในอนาคต
Head of MINI ยังแสดงความเห็นเรื่องระยะทางขับขี่ใน MINI Cooper SE ที่มีอยู่ราว 240 กิโลเมตรด้วยว่า เขาไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเพิ่มความจุแบตเตอรี่ จนนำไปสู่การเพิ่มต้นทุนและน้ำหนักให้กับตัวรถ เนื่องจากลูกค้าของ MINI มักใช้งานในเมือง ทำให้ความจุแบตเตอรี่ขนาดนี้เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งจุดนี้แตกต่างกับลูกค้าของ BMW ที่มีพฤติกรรมการใช้รถเป็นระยะทางที่ไกลกว่า
Körber ได้ทิ้งท้ายด้วยว่าลูกค้าของ MINI ยังมักเป็นผู้นำกระแส และมีความสนใจในความยั่งยืนที่มากกว่า ซึ่งนี่เป็นสาเหตุให้บริษัทมีแผนการนำระบบไฟฟ้า EV มาใช้มากขึ้น ทั้งยังมีความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ MINI ด้วย เนื่องจากให้แรงบิดสูงและขับขี่ดี เนื่องจากมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลพลอยได้ของระบบ EV ทั้งสิ้น