สมาชิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล MINI อย่าง MINI Countryman ได้มีรุ่น LCI ตามมาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม โดยมาพร้อมกับการปรับปรุงทั้งภายนอกและภายใน พร้อมพัฒนาขุมพลังเบนซินและดีเซลทุกรุ่น ให้ผ่านมาตรฐาน Euro 6d ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2021 พร้อมสานต่อความสำเร็จรุ่นพี่ที่มียอดขายสะสมทั่วโลก คิดเป็น 30% ของ MINI ทั้งหมดที่ออกจำหน่าย

ภายนอกของ MINI Countryman LCI ปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าใหม่ทั้งกระจังหน้า และโคมไฟหน้า LED มาพร้อมกับไฟตัดหมอก LED ด้านหลังเปลี่ยนไฟท้ายใหม่เป็นแบบ LED ทรง Union Jack เสริมด้วยล้อลายใหม่ขนาด 16 – 19 นิ้ว การตกแต่งเพิ่มทางเลือกสีดำ Piano Black Exterior ให้ตัดสีตัวถังรอบคันได้ ส่วนสีตัวถังมีการเพิ่มสีใหม่อย่าง สีขาว White Silver Metallic และ สีเขียว Sage Green Metallic

ห้องโดยสารเปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยหุ้มหนังทรงสปอร์ตในทุกรุ่นย่อย หน้าจอแสดงผลกลางแดชบอร์ดมีขนาด 8.8 นิ้ว ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อ MINI Connected ส่วนมาตรวัดสามารถเปลี่ยนเป็นหน้าจอขนาด 5 นิ้วได้ การตกแต่งมีวัสดุและอุปกรณ์ใหม่ให้เลือกหลายรายการ รวมถึงสีดำเงา Piano Black High Gloss เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 เพิ่มความจุพื้นที่บรรทุกสัมภาระจาก 450 – 1,390 ลิตร



รายละเอียดขุมพลังทั้งหมดของ MINI Countryman LCI มีดังต่อไปนี้

เครื่องยนต์เบนซิน

MINI Cooper Countryman

แบบ 3 สูบ ขนาด 1,499 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,500 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480 –  4,100 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ Steptronic DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ในรุ่น ALL4 จะเป็น เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

MINI Cooper S Countryman

แบบ 4 สูบ ขนาด 1,998 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,750 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 –  4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ Steptronic DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ในรุ่น ALL4 จะเป็น เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

MINI Cooper SE Countryman ALL4

แบบ 3 สูบ ขนาด 1,499 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 5,000 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,500 –  3,800 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 10.0 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตร ทั้งระบบมีกำลังสูงสุดรวม 220 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ


เครื่องยนต์ดีเซล

MINI One D Countryman

แบบ 3 สูบ ขนาด 1,496 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,750 –  2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ Steptronic DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า

MINI Cooper D Countryman

แบบ 4 สูบ ขนาด 1,995 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,750 –  2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ในรุ่น ALL4 จะเป็น เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

MINI Cooper SD Countryman

แบบ 4 สูบ ขนาด 1,995 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 –  2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ในรุ่น ALL4 จะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ที่มา : MINI