เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่ MINI มีรถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่งมาครบ 30 ปี บริษัทจึงเปิดตัว MINI Convertible Seaside Edition มาพร้อมกับการตกแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายใน เสริมด้วยตัวถังสีพิเศษอย่างสีน้ำเงิน Caribbean Aqua และสีขาว Nanuq White ตัดกับหลังคาผ้าใบสีดำควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า สามารถเปิดปิดได้ขณะขับขี่เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง

MINI Convertible Seaside Edition มาพร้อมกับล้อลาย Pulse Spoke ขนาด 18 นิ้ว เสริมด้วยฝาปิดดุมล้อเฉพาะรุ่น ด้านหน้ามีกราฟฟิกเฉพาะรุ่นอยู่บนกันชนใต้กระจังหน้า ด้านข้างเสริมแถบกราฟฟิกคาดยาวจากแก้มหน้าถึงท้ายรถ ที่ครีบแก้มคู่หน้าและฝาท้ายมีโลโก้ Seaside บ่งบอกความพิเศษ เมื่อเปิดประตูมาจะเจอกันเตะที่ระบุชื่อรุ่นเช่นกัน

 

ห้องโดยสารของ MINI Convertible Seaside Edition นำหนังสีดำ Carbon Black มาหุ้มเบาะ, ที่วางแขน และที่พิงเข่า ซึ่งนี่เป็นสีที่ตัดกับสีตัวถังพิเศษเป็นอย่างดี บนแดชบอร์ดยังมีกราฟฟิกเฉพาะรุ่น รวมถึงมีโลโก้รุ่นอยู่ที่ก้านของพวงมาลัย sports steering หุ้มหนังด้วย ส่วนเครื่องเสียงทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ MINI Operating System เวอร์ชั่นล่าสุด

MINI Convertible Seaside Edition มีขุมพลังสองระดับความแรงให้เลือก เริ่มต้นกับ Cooper ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ 136 แรงม้า ส่วนอีกรุ่นคือ Cooper S พกพาเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.2 วินาที ปิดท้ายความพิเศษด้วยกุญแจรถเฉพาะรุ่น ซึ่งตกแต่งให้เหมือนลายคลื่นพร้อมกับมีเลข 30 ติดอยู่

 

ที่มา: MINI