ค่ายดาวสามแฉกได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ เพื่อการผจญภัยคันใหม่ขึ้นมา โดยเป็นการต่อยอดจาก EQC 400 4MATIC ที่กลายร่างเป็น Mercedes-Benz EQC 4×4² ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020 เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการผจญภัยด้วยรถยนต์บนหนทางทุรกันดาร สามารถทำได้อย่างยั่งยืนด้วยขุมพลังไฟฟ้า EV
ตัวถังของ Mercedes-Benz EQC 4×4² แทบไม่มีอะไรแตกต่างจาก EQC ทั่วไป โดยเพิ่มแค่หุ้มฟิล์มสีเทาด้าน Matt Metallic Gun-Metal Grey เสริมด้วยโป่งซุ้มล้อสีดำที่กางออกมาอีกราว 10 เซนติเมตร นอกจากนั้น ยังมีล้อลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง off-road ขนาด 285/50 พร้อมช่วงล่างยกสูงจน Ground Clearance เพิ่มจากเดิมที่ 140 เป็น 293 มิลลิเมตร หรือ เพิ่มขึ้นเกินสองเท่าที่ 153 มิลลิเมตร
ความสูงดังกล่าวยังมากกว่าตัวลุยของค่ายอย่าง G-Class ถึง 58 มิลลิเมตร ส่วนมุมไต่เพิ่มจาก EQC ธรรมดาที่ 20.6 เป็น 31.8 องศา มุมจากเพิ่มจาก EQC ปกติที่ 20.0 เป็น 33.0 องศา แน่นอนว่าทั้งสองมุมทำได้มากกว่า G-Class มาตรฐานที่มีค่ามุมไต่และมุมจากที่ 28 องศาทั้งคู่ ส่วนความสามารถในการลุยน้ำทำได้มากกว่าเดิม จากเดิมที่ลุยน้ำลึกได้ 15 เพิ่มเป็น 40 เซนติเมตร
ปัจจัยที่ทำให้ความสูงของ Mercedes-Benz EQC 4×4² สูงขึ้นมากคือการเปลี่ยนเพลาขับทั่วไป มาใช้แบบ portal axles ซึ่งล้อจะไม่ได้อยู่ที่ศูนย์กลางความสูงของเพลาขับเช่นเคย แต่จะอยู่ต่ำกว่าเพลาขับลงมามาก ทั้งยังใช้จุดยึดเดิมเหมือนกับช่วงล่างมาตรฐาน ด้านการขับขี่มีระบบ Off-Road drive programs ที่แทรกแซงการทำงานของเบรก เพื่อปรับการกระจายแรงบิดในขณะที่ล้อสูญเสียการยึดเกาะ
Mercedes-Benz EQC 4×4² ยังมีระบบสร้างเสียงจำลองรถยนต์ Acoustic Vehicle Alert System, AVAS ตามกฎหมายกำหนด เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเสียงในการทำงาน โดยปรับแต่งเสียงมาใหม่โดยเฉพาะและติดตั้งที่อยู่ที่โคมไฟหน้า และจนได้ชื่อเล่นของชิ้นส่วนใหม่ว่า ลำโพงไฟหน้า (lampspeaker) สำหรับสถานะของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ ค่ายดาวสามแฉกระบุว่าพัฒนาขึ้นมาเพียงคันเดียว เพื่อการศึกษาเท่านั้น
ที่มา : Daimler