McLaren Artura เป็นรถยนต์คันแรกของค่ายแบบ Series – Production ที่ใช้ขุมพลัง PHEV แบบ High-Performance Hybrid (HPH) อีกทั้งยังเป็นคันแรกที่ใช้ platform ใหม่แบบ MCLA น้ำหนักเบาเพียง 1,498 กิโลกรัม ส่งผลให้อัตราแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ที่ 488 แรงม้าต่อตัน ด้านรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,539 x 2,080 x 1,193 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,640 มิลลิเมตร

McLaren Artura ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้ทั้งไฟหน้าทรงบูมเมอแรง, เส้นสายตัวถังโดยรวม, ประตูปีกนก และ ช่องระบายอากาศด้านหลัง ยางที่ใช้เป็น Pirelli P ZERO CORSA รัดล้อ 19 นิ้ว ในด้านหน้า และ 20 นิ้วในด้านหลัง ห้องโดยสารออกแบบใหม่ ให้ผู้ขับขี่ควบคุมอุปกรณ์หลักทั้งหมดได้จากพวงมาลัย เสริมด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง ขนาด 8 นิ้ว และ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ

ขุมพลังของ McLaren Artura เป็น เครื่องยนต์เบนซินวางกลางลำ รหัส M630 แบบ V6 ขนาด 2,993 ซีซี. เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 585 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 585 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 7,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SSG 8 จังหวะ ถอยหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง

ส่วนระบบ Hybrid ประกอบด้วย แบตเตอรี่ความจุ 7.4 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร หากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว ทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง และขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 30 กิโลเมตร ด้านตัวเลขสมรรถนะ มีดังต่อไปนี้

  • ทั้งระบบ กำลังสูงสุด 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร
  • ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.0 วินาที
  • ทำอัตราเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.3 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง

McLaren Artura มาพร้อมกับช่วงล่างแบบอิสระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แชสซีส์เป็นแบบ McLaren Carbon Lightweight Architecture (MCLA) ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม ระบบเบรกเป็น Carbon Ceramic Discs จานเบรกด้านหน้ามีขนาด 390 มิลลิเมตร มาพร้อมกับคาลิปเปอร์ขนาด 6 สูบ monobloc ส่วนจานเบรกด้านหลังมีขนาด 380 มิลลิเมตร มาพร้อมกับคาลิปเปอร์ขนาด 4 สูบ

McLaren Artura เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2021 มีสเปคหลักให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย คาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปีนี้เป็นต้นไป สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 185,500 ปอนด์ (ราว 7,793,000 บาท)

 

ที่มา: McLaren