SUV เบาะ 3 แถว ของค่ายโรตารี่ไม่ได้มีแต่ในรหัส Mazda CX-8 เท่านั้น แต่ยังมีพี่ใหญ่กว่าในรหัส Mazda CX-9 ทำตลาดในสหรัฐฯ ด้วย และมีการเปิดเผยข้อมูลรุ่นปรับอุปกรณ์ ในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนั้นเน้นไปที่ การเพิ่มลูกเล่นในห้องโดยสาร และปรับแต่งขุมพลังให้มีสมรรถนะสูงขึ้น
(หมายเหตุ มีเพียงภาพนี้เท่านั้นที่เป็นภาพ Mazda CX-9 รุ่นปรับอุปกรณ์ครั้งล่าสุด เนื่องจากทางการปล่อยภาพมาภาพเดียว ส่วนภาพประกอบที่เหลือเป็นภาพรุ่นก่อนหน้า)
Mazda CX-9 รุ่นปรับอุปกรณ์ มาพร้อมกับ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ฝาท้ายเป็นแบบระบบไฟฟ้า พร้อมระบบจดจำความสูงและมีระบบเตะเปิด โดยติดตั้งมาให้ในรุ่นย่อย Grand Touring และ Signature ล้อมีขนาด 18 นิ้ว สีเทา Gray Metallic หรือ ขนาด 20 นิ้ว สีเงิน Brilliant Silver Finish ปิดท้ายด้วยกุญแจ Keyless แบบใหม่ Mazda Advanced Keyless Entry and Start System
ห้องโดยสารยังมีเบาะ 3 แถว แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือเบาะแถวที่ 2 แบบแยก Captain’s Seat มาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า, ปรับอุณหภูมิได้, และมีที่วางแก้ว + ช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่ง การตกแต่งใช้หนัง Nappa และลายไม้ Santos Rosewood ส่วนเครื่องเสียงมีของ Bose ให้เลือก และเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลใหม่ ขนาด 9 นิ้ว
ขุมพลังของ Mazda CX-9 รุ่นปรับอุปกรณ์ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5T แบบ 4 สูบ ขนาด 2,488 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89 x 100 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 ปรับแต่งใหม่ กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 434 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที (สูงกว่าเดิม 14 นิวตันเมตร) เมื่อใช้น้ำมันเบนซิน octane 93
ระบบส่งกำลังเป็น เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ All-Wheel Drive โดยอย่างหลังถือเป็น Mazda รุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่มีระบบ Off-Road Traction Assist มาให้ด้วย ไว้ลดกำลังจากเครื่องยนต์ และเพิ่มแรงเบรกในล้อที่สูญเสียการยึดเกาะถนน ซึ่งมาแทนที่ระบบ Traction Control แบบเดิม
ระบบความปลอดภัยใน Mazda CX-9 รุ่นปรับอุปกรณ์ มาพร้อมกับ i-Activsense ประกอบไปด้วย
- ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า เบรกจนหยุดและออกตัวใหม่ได้เอง Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go
- ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อพบความเสี่ยงที่จะชนด้านหน้า ตรวจจับคนเดินถนนได้ Advanced Smart City Brake Support with pedestrian detection
- ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อพบความเสี่ยงที่จะชนด้านหน้า พร้อมแจ้งเตือน Smart Brake Support with Collision Warning
- ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร พร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับ Lane Departure Warning with Lane-Keep Assist
- ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา ทั้งในกระจกมองข้าง และระหว่างถอยออกจากมุมอับ Blind Spot Monitoring System with Rear Cross-Traffic Alert
Mazda CX-9 รุ่นปรับอุปกรณ์ เวอร์ชั่นสหรัฐฯ จะออกจำหน่ายที่นั่นก่อนปลายปีนี้ โดยมีรุ่นย่อยให้เลือก 5 รุ่น ประกอบด้วย Sport, Touring, Touring Premium Package, Grand Touring และ Signature สนนราคาจำหน่าย ซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 33,790 – 46,115 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,071,000 – 1,388,000 บาท)
ที่มา: Mazda