Suzuki Swift ใกล้จะได้ฤกษ์ส่งรุ่น Minorchange มาทำตลาดต่อแล้ว และยังมีภาพหลุดของโบร์ชัวร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาให้ชมกันด้วย เผยให้เห็นการปรับดีไซน์ด้านหน้าเล็กน้อย พร้อมเพิ่มสีตัวถังใหม่ ส่วนห้องโดยสารและขุมพลังคาดว่าไม่แตกต่างจากรุ่นปัจจุบัน
Suzuki Swift Minorchange เปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าใหม่เพียงเล็กน้อย เช่น ลายรังผึ้งในกระจังหน้า และ ยังคงมีกระจังหน้าให้เลือกสองแบบเช่นเคย คือแบบธรรมดาช่องกระจังรังผึ้งพร้อมเส้นโครเมี่ยมขีดกลาง และ แบบสปอร์ตช่องกระจังรังผึ้งเช่นกันแต่ช่องใหญ่กว่า พร้อมเส้นแดงขีดกลาง และ มีกันชนหน้าที่ดูสปอร์ตกว่าด้วย ลายล้อเป็นแบบปัดเงาลายใบพัดแบบใหม่ มีให้เลือกทั้งล้อฝาครอบ, ล้ออัลลอยสีเทา และ ล้ออัลลอยปัดเงา
สีตัวถังมีการเพิ่มสีใหม่ เริ่มต้นกับสี monotone อีก 2 สี ทั้งสีส้ม และ สีเหลือง ส่วนสี two-tone เพิ่มใหม่ 4 สี ประกอบด้วย สีส้ม, สีแดง, สีน้ำเงิน และ สีเหลือง ทั้งหมดตัดกับหลังคาสีเทา ส่วนสีตัวถัง monotone ของเดิมยังมีให้เลือกทั้งสีแดง, สีน้ำเงิน, สีเขา, สีดำ และ สีเทา ด้านห้องโดยสารมองภาพไม่ค่อยชัดเท่าใดนัก แต่พอจะเห็นว่าใช้สีดำเหมือนเดิม พร้อมพวงมาลัยท้ายตัดเหมือนเดิม
ขุมพลังของ Suzuki Swift Minorchange เวอร์ชั่นญี่ปุ่น คาดว่ายังคงเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12C โดยมีให้เลือกทั้งเบนซิน และ Hybrid ดังรายละเอียดต่อไปนี้
เบนซิน
แบบ 4 สูบ ขนาด 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
เบนซิน Mild Hybrid
ใช้เครื่องยนต์เบนซินเดียวกับรุ่นปกติ พร้อมเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า รหัส WA05A กำลังสูงสุด 3.1 แรงม้า (PS) ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 3 Ah ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
คาดว่า Suzuki Swift Minorchange จะเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นในเร็ววันนี้ ทั้งยังมีราคาหลุดมาให้ชมกันด้วย โดยราคาเริ่มต้นตามเอกสารที่หลุดมาเป็นของ รุ่นหน้าธรรมดา ล้อฝาตบ เกียร์ธรรมดา อยู่ที่ 1,377,200 เยน (ราว 411,000 บาท) ส่วนรุ่นแพงสุดเป็นหน้าสปอร์ต ขุมพลัง Hybrid ราคา 2,140,600 เยน (ราว 640,000 บาท) ทั้งหมดนี้เป็นราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น ซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย
ที่มา: indianautosblog, htauto