Lada Niva ยนตรกรรมสัญชาติรัสเซีย นับเป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่ลากขายมานานที่สุด เพราะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1977 และได้รับการปรับปรุงเรื่อยมาให้เป็น ‘รุ่นใหม่’ จวบจนปัจจุบันที่ AvtoVAZ ผู้ผลิตเพิ่มขุมพลังใหม่ที่มีพละกำลังสูงขึ้นจากเดิมกว่า 40% ตื่นเต้นเร้าใจกับเทคโนโลยี 16 วาล์ว รีดพละกำลังได้ถึง 124 แรงม้า ทั้งยังมีการปรับปรุงเกียร์, ช่วงล่าง, ระบบเบรก และภายใน ใหม่หมดให้สมกับการใช้ชื่อรุ่นว่า Lada Niva Sport
ภายนอกของ Lada Niva Sport ใช้สีดำตัดสีตัวถังรอบคันทั้งกระจังหน้า, กระจกมองข้าง, มือเปิดประตูนอก, โป่งล้อรอบคัน, กันชนหน้าหลัง และราวหลังคา ส่วนล้อเปลี่ยนลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แบบหน้าเงาตัดด้านในสีดำ ในกระจังหน้ายังแฝงความพิเศษด้วยโลโก้ Sport สีแดง, แถบไฟส่องสว่าง LED เหนือกันชนหน้า และเพิ่ม scoop บนฝากระโปรงหน้าสีดำ ส่วนไฟเลี้ยวแก้มและไฟเลี้ยวเหนือไฟหน้าเป็นสีขาว ต่างจากรุ่นอื่นที่เป็นสีส้ม
ทางการระบุว่า Lada Niva Sport ตกแต่งภายในสไตล์ ‘Racing’ กับเบาะหนังสีดำตัดแถบสีแดง พร้อมเดินตะเข็บด้ายสีแดงรอบคัน เสริมด้วยการสอดแทรกสีแดงไว้ในถุงเกียร์, หัวเกียร์, ด้ามเบรกมือ, พวงมาลัยพร้อมระบุตำแหน่ง 12 นาฬิกา และแดชบอร์ด ส่วนระบบอำนวยความสะดวกมีระบบปรับอากาศ, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และกระจกหน้าต่างไฟฟ้า แต่กลับไม่พบเครื่องเสียงในภาพจากทางการ
ขุมพลังของ Lada Niva Sport เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 124 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 151 นิวตันเมตร แรงขึ้นจากเดิมที่ใช้ขุมพลังขนาด 1.7 ลิตร 83 แรงม้า 129 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะลูกใหม่ ที่ปรับแต่งเกียร์ 5 พร้อมชุดคลัชต์ และ single-lever transfer case แบบใหม่ ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา
Lada Niva Sport ยังปรับแต่งช่วงล่างและระบบเบรกใหม่ให้ ‘สปอร์ตขึ้น’ อีกด้วย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Rally Nivas ที่คว้าชัยจากการแข่งขันรายการ Silk Way Rally Marathon 2024 สำหรับราคาจำหน่ายในรัสเซียยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ราว 2,000,000 รูเบิลรัสเซีย (ราว 683,000 บาท) สูงกว่า Lada Niva รุ่นย่อยอื่นที่มีค่าตัวระหว่าง 981,000 – 1,485,000 รูเบิลรัสเซีย (ราว 335,000 – 507,000 บาท)