ในโอกาสที่ Kia ฉลองการก่อตั้งครบรอบ 80 ปี หลังเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจเป็นครั้งแรกในปี 1944 ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนจักรยาน และกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในวันนี้ Kia อังกฤษ จึงร่วมฉลองโอกาสดังกล่าว ด้วยการจับมือกับสำนัก Electrogenic จากอังกฤษ ในการดัดแปลง 1996 Kia Pride ซึ่งมีพื้นฐานร่วมกับ Ford Festiva / Mazda 121 ให้ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง EV โดยที่ยังคงอนุรักษ์รูปลักษณ์เดิมเอาไว้ พร้อมตั้งชื่อใหม่เป็น Kia Pridev

 

หากตัดสินจากภายนอก แทบดูไม่ออกเลยว่า Kia Pridev คืองานสร้างเฉพาะตัว เพราะยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ทุกประการ รวมถึงกันชนหน้าหลังสีดำ พร้อมกระทะล้อฝาตบขนาด 12 นิ้ว โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงระบบไฟหน้าและไฟท้าย รวมถึงเปลี่ยนสีตัวถังใหม่จากเดิมสีน้ำเงิน Kingfisher Blue Metallic เป็นสีขาวมุก White Pearl โทนเดียวกับ Kia EV ในปัจจุบัน ส่วนช่องชาร์จไฟซ่อนอยู่ในตำแหน่งฝาถังน้ำมันเดิมอย่างแนบเนียน

ห้องโดยสารของ Kia Pridev คงเดิมทุกประการด้วยเบาะผ้าลายตรงยุค ทั้งนี้ มีการสอดแทรกรายละเอียดเล็กน้อย ด้วยการตัดขอบเบาะด้วยสีเขียว Lime Green แบบเดียวกับที่ใช้ใน Kia EV6 GT ทั้งยังเปลี่ยนมาตรวัดน้ำมันให้เป็นมาตรวัดระดับแบตแทน ส่วนขุมพลังยกเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 ลิตร พร้อมถังน้ำมันขนาด 37 ลิตรออก และแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร พร้อมจับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ของเดิมด้วยเหตุผลที่ว่า Kia ต้องการให้ผู้ขับขี่มีส่วนร่วมกับรถมากที่สุด

 

แหล่งพลังงานของ Kia Pridev คือแบตเตอรี่ขนาด 10 kWh จำนวน 2 ลูก ติดตั้งอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าและใต้พื้นรถที่ละ 1 ลูก รวมความจุแบตเตอรี่เป็น 20 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 193 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จรองรับที่ชาร์จขนาด 3.3 kW ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ในการชาร์จไฟจาก 1 – 100% ส่วนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเพียง 20 กิโลกรัม จากเดิม 850 เป็น 870 กิโลกรัม ปิดท้ายด้วยรูปแบบการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 แบบดังนี้

  • Eco จำกัดพละกำลังไว้ที่ 61 แรงม้า 118 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 11.8 วินาที หรือเทียบเท่าสมัยที่ใช้เครื่องยนต์เดิม
  • Auto จำกัดพละกำลังไว้ที่ 81 แรงม้า 176 นิวตันเมตร ผู้ขับขี่ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ เพราะระบบจะล็อคไว้ที่เกียร์ 3 ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยอัตราทดเกียร์
  • Sport พละกำลังมาเต็ม 109 แรงม้า 235 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ราว 8 วินาที

 

ที่มา: autocar, carscoops