ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อัตราการโจรกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นได้ลดลงติดต่อกัน เนื่องมาจากการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบเมือง กระนั้นแล้วยังมีรถยนต์ถูกโจรกรรมอยู่ดี โดยเฉพาะบางรุ่นซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดมืด และมักจะถูกส่งออกไปยังประเทศปลายทางที่นิยมรุ่นต่างๆ รวมไปถึง Toyota Land Cruiser, Toyota Alphard และ Lexus LX ซึ่งประเทศปลายทางนั้นมีทั้งตะวันออกกลางและไทย นอกจากนั้น ยังมีรถสปอร์ตยุค 90’s อย่าง Toyota Supra, Nissan Skyline และ Nissan Silvia ที่อยู่ในลิสต์เช่นกัน

กรมศุลกากรจึงเป็นด่านสุดท้ายที่จะสกัดไม่ให้รถยนต์ที่ถูกโจรกรรมเหล่านี้ สูญหายจากประเทศญี่ปุ่นไปตลอดกาล และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตรวจพบ เพราะขบวนการลักรถเพื่อส่งออก มักจะสำแดงเท็จพร้อมซุกซ่อนรถยนต์เหล่านี้ ไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ที่มีสินค้าอื่นบังหน้าอยู่ หรือไม่ก็ใช้วิธีแยกชิ้นส่วน รายงานยังระบุว่าในบางกรณีมีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีมีขนาดแทบจะพอดีกับรถยนต์ จนเจ้าหน้าที่ไม่คิดว่ามีรถยนต์ซุกซ่อนอยู่ด้านใน

 

แต่กระนั้นแล้ว กรมศุลกากรของญี่ปุ่นหรือ Yokohama Customs ยังสามารถสกัดกั้นรถยนต์ผิดกฎหมายได้ที่ท่าเรืออย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคม 2024 ได้ตรวจพบ Toyota Alphard มูลค่า 5 ล้านเยน (ราว 1.1 ล้านบาท) และ Lexus LX750 มูลค่า 10 ล้านเยน (ราว 2.2 ล้านบาท) รุ่นละ 1 คัน ซุกซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์ที่สำแดงว่าเป็นรถยนต์รุ่นอื่น และมีปลายทางมายังประเทศไทย ต่อมา ในเดือนสิงหาคม 2024 มีการตรวจพบ Toyota Alphard อีก 4 คัน มูลค่ารวม 32 ล้านเยน (ราว 7.2 ล้านบาท) ซุกซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมส่งออกมายังไทยอีกครั้ง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าผู้ส่งออกคอนเทนเนอร์ทั้งสองนี้ เป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน

ที่พีคกว่านั้นคือ Toyota Alphard จำนวน 2 ใน 4 คันที่ตรวจพบนั้น มีประวัติถูกโจรกรรม ทั้งยังมีการถอดชิ้นส่วนกันชนหน้าหลังของบางคันออก เพื่อสำแดงว่าส่งออกเป็นอะไหล่ ทำให้เจ้าหน้าที่มักจะลดความเข้มงวดในการตรวจตรา อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรของญี่ปุ่นระบุว่า จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราคอนเทนเนอร์ โดยเฉพาะกับรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งจะมีการตรวจเอกสารและหมายเลขตัวถังอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ทั้งยังมีแผนนำเทคโนโลยีเครื่องสแกน X-Ray ขนาดใหญ่มาใช้ตรวจคอนเทนเนอร์ด้วย

 

ที่มา: yahoo.jp