Honda Ridgeline รถกระบะพื้นฐาน Monocouqe จากสหรัฐฯ ได้รับการปรับอุปกรณ์เป็นรุ่นปี 2020 โดยจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการปลดระวาง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแทน ทั้งยังเพิ่มระบบ Honda Sensing มาให้รวมไปถึงลูกเล่นอื่นด้วย
ภายนอกของ Honda Ridgeline ยังคงรักษาเอกลักษณ์ฝาท้ายเปิดได้สองแบบ Dual Action Tailgate เอาไว้รวมไปถึง ระบบลำโพงฝังในกระบะ, ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 115 โวลต์ และ ช่องเก็บของใต้พื้นกระบะแบบควบคุมอุณหภูมิได้ ส่วนที่เพิ่มมาใหม่คือ ไฟหน้าต่ำ LED, ระบบล็อคฝาท้ายด้วยรีโมท และประตูบานหลังเปิดได้กว้างขึ้น
ห้องโดยสารเปลี่ยนไปใช้หน้าจอสัมผัส Honda’s Display Audio ขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่รองน่องแบบปรับระดับได้ และ ระบบไฟ ambient lighting ในห้องโดยสาร
ขุมพลังของ Honda Ridgeline ยังคงเดิมกับ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร 3,471 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89 x 93 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อม Paddle Shift ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานคือแพคเกจ Honda Sensing ประกอบด้วย
- ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ Collision Mitigation Braking System™ (CMBS™)
- ระบบแจ้งเตือน เมื่อเสี่ยงชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ระบบช่วยรักษาให้ตัวรถอยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ระบบแจ้งเตือน เมื่อรถยนต์ออกนอกช่องจราจร Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
- ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า Adaptive Cruise Control (ACC)
Honda Ridgeline รุ่นปรับอุปกรณ์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม และจะพร้อมออกจำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ทุกคันมาพร้อมการรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 36,000 ไมล์ (57,936 กิโลเมตร) มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย คือ Sport, RTL, RTL-E และ Black Edition สนนราคาจำหน่ายซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 34,995 – 44,615 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,057,000 – 1,347,000 บาท)
ที่มา : Honda