Honda ได้เข้าร่วมงาน Consumer Electronics Show หรืองาน CES 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 11 มกราคม ในสหรัฐฯ พร้อมขนนวัตกรรมล้ำสมัยมาแสดงหลายรายการ เพื่อช่วยลดภาระการทำงานของมนุษย์, เพิ่มความสะดวกสบาย, ลดอัตราการสร้างมลภาวะ และเพื่อการช่วยชีวิต ส่วนจะมีเทคโนโลยีใดบ้างนั้น มารับชมกันได้เลยครับ
Honda Autonomous Work Vehicle
เป็นการผสมผสานรถ ATV (All – Terrain Vehicle) เข้ากับระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง เป็นผลงานของ Honda R&D Americas โดยตั้งเป้าหมายให้นำมาใช้งานได้หลายรูปแบบทั้งเชิงธุรกิจ เชิงเกษตรกรรม และเพื่อการกู้ภัย ส่วนพื้นฐานนั้นมาจากรถ ATV ของ Honda ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานร่วมกับระบบ GPS และเซนเซอร์นำทาง ทั้งยังมีระบบ on board plug-in ด้วย
SAFE SWARM™
Honda R&D ได้นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับสิ่งอื่นใด (Vehicle to Everything – V2X) มาพัฒนาเป็นแนวคิดระบบ SAFE SWARM™ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ โดยระบบจะส่งข้อมูลที่สำคัญซึ่งมาจากเซนเซอร์รอบคัน ให้กับรถยนต์รอบข้างทั้งความเร็วและตำแหน่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่และรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ใช้ในการประกอบการตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเฉี่ยวชน
ระบบ SAFE SWARM™ ยังช่วยลดการจราจรติดขัดด้วย เนื่องจากระบบจะชะลอความเร็วไวกว่าปกติ ช่วยหลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจราจรชะงัก และระบบยังสามารถหักหลบได้ด้วย ปัจจุบัน Honda ได้เริ่มทดสอบระบบดังกล่าว ณ ศูนย์ 33 Smart Mobility Corridor ในรัฐ Ohio ภายใต้การจำลองสภาพแวดล้อมจริงในพื้นที่ปิด
Robotics
Honda P.A.T.H. (Predicting Action of the Human) Bot
หุ่นยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ผ่านย่านคนพลุกพล่านได้อย่างคล่องตัว โดยมาพร้อมกับระบบ artificial intelligence ทำหน้าที่ประมวลผลสิ่งกีดขวางและเลือกเส้นทาง โดยใช้ข้อมูลที่ได้มาจากกล้องและเซนเซอร์
Honda RaaS (Robotics as a Service) Platform
Software ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับหุ่นยนต์ ใช้ติดต่อสื่อสารร่วมกับหุ่นยนต์ด้วยกันผ่านระบบ API*2 และ SDK*3 โดยมาพร้อมกับความสามารถในการทำงานพื้นฐานทั้ง เก็บ – แบ่งปันข้อมูล เปลี่ยนถ่ายสภานภาพ และส่วนควบคุม
Honda Omni Traction Drive System
เป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจาก Honda robotics research โดยเป็นส่วนควบคุมของหุ่นยนต์ UNI-CUB ซึ่งสามารถรักษาสมดุลการถ่ายทอดน้ำหนัก 2 ฝั่ง ให้วัตถุตั้งอยู่กึ่งกลางโดยไม่ล้มลงได้ Honda ตั้งเป้าว่าระบบนี้สามารถนำไปติดตั้ง ในหุ่นยนต์หลากหลายรูปแบบ
Wireless Vehicle-to-Grid (V2G)
ระบบบริหารจัดการพลังงานที่ออกแบบมาช่วยลดอัตราการปล่อยมลพิษ และยังสร้างมูลค่าให้กับผู้บริโภคด้วย โดยแนวคิดนี้เกิดจาการตระหนักว่า การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้น อาจนำไปสู่การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ระบบ Wireless Vehicle-to-Grid จึงถูกพัฒนาขึ้นมาให้รถยนต์ไฟฟ้า สามารถถ่ายพลังงานที่มีอยู่กลับเข้าสู่ระบบชาร์จไฟ ก่อให้เกิดความสมดุลในระบบ ทั้งยังมีผลตอบแทนให้กับผู้ใช้งานด้วย
Honda Dream Drive
งานสร้างระหว่าง Honda Developer Studio และ DreamWorks Animation เพื่อมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ในห้องโดยสาร โดยผู้ขับขี่สามารถจองร้านอาหาร หรือ ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่านระบบ wallet ในรถยนต์ทั้งค่าน้ำมัน ค่าตั๋วภาพยนตร์ และค่าที่จอด ส่วนผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับความบันเทิง และการควบคุมระบบต่างๆ รูปแบบใหม่ รวมถึงเกมส์และภาพยนตร์
Noveto Smart Audio™
เทคโนโลยี 3D audio ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Honda Xcelerator, Noveto Systems และ Perceptive Automata ซึ่งสามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังหูของผู้ใช้งานแต่ละคน เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ เพราะไม่เสียสมาธิ ทั้งยังมีระบบเตือนสิ่งที่อาจเป็นอันตราย โดยใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์รอบคันมาประมวลผล คาดเดาการตัดสินใจของคนเดินถนน จักรยาน และผู้ขับขี่คนอื่น
ที่มา: Honda