

งานแถลงข่าวกลยุทธ์รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านทาง Virtual Press Conference ของ Honda ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2021 ที่ผ่าน นอกจากจะเผยให้เห็นภาพรถยนต์ต้นแบบตระกูล e:N Series 3 รุ่น อันได้แก่ e:N Coupe’ Concept, e:N SUV Concept และ e:N GT Concept ยังมีการหยั่งเชิงกระแสตอบรับจากผู้บริโภคด้วยเวอร์ชัน Prototype ของรถยนต์ Subcompact Crossover EV ที่เตรียมออกจำหน่ายในประเทศจีนปีหน้า นามว่า e:NP1 และ e:NS1
Honda e:NP1 และ e:NS1 เป็นรถยนต์ Subcompact Crossover ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก HR-V, XR-V หรือ Vezel รุ่นล่าสุด และถือเป็นรถยนต์ 2 รุ่นแรกในตระกูล e:N ที่จะออกสู่ตลาด EV ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย e:NP1 จะถูกผลิตและจำหน่ายโดย Guanqqi Honda หรือ GAC Honda ในขณะที่ e:NS1 นั้น อยู่ภายใต้การดูแลของ Dongfeng Honda





มิติตัวถังภายนอกของ e:NP1 และ e:NS1 มีความยาว 4,390 มิลลิเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,560 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,610 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ HR-V เวอร์ชันปกติ รุ่นล่าสุด จะพบว่า e:NP1 และ e:NS1 ยาวกว่า 62 มิลลิเมตร กว้างกว่า 18 มิลลิเมตร สูงกว่า 1,560 มิลลิเมตร แต่มีระยะฐานล้อยาวเท่ากัน
ดีไซน์ภายนอกเกือบทั้งคันของ Subcompact Crossover EV ทั้ง 2 รุ่น เหมือนกันกับ HR-V แทบทุกประการ แต่มีการปรับงานออกแบบด้านหน้าใหม่ เริ่มตั้งแต่เปลือกกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ตลอดจนกระจังหน้าที่เปลี่ยนช่องดักอากาศมาเป็นช่องเสียบชาร์จไฟฟ้า พร้อมโลโก้ H-Mark เรืองแสง ส่วนบั้นท้ายมีการปรับชุดไฟท้ายที่เชื่อมจากฝั่งซ้ายและขวาให้ดูหนาขึ้น และเปลี่ยนโลโก้ปกติ เป็นตัวอักษร H o n d a ตามสมัยนิยม



ภายในห้องโดยสารบริเวณครึ่งคันหน้าถูกปรับจนเกือบไม่เหลือเค้าของ HR-V เวอร์ชันปกติ มีการปรับดีไซน์ของแผงแดชบอร์ดให้ดูต่างออกไป หันมาใช้ชุดมาตรวัดแบบหน้าจอทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน บริเวณกึ่งกลางติดตั้งหน้าจอแสดงผล ขนาด 15.2 นิ้ว ซึ่งควบรวมทั้งระบบความบันเทิง เครื่องปรับอากาศ รวมทั้งฟังก์ชันอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน ในภาพรวมถือว่ามีความล้ำและทันสมัยในแบบที่ลูกค้าที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่คาดหวัง


ขุมพลังขับเคลื่อนอันเป็นหัวใจสำคัญของ e:NP1 และ e:NS1 เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว มีกำลังสูงสุด 2 ระดับ ได้แก่ 182 แรงม้า (PS) และ 201 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ขนาด 68.8 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง มากกว่า 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)


ด้านโครงสร้างของทั้ง 2 รุ่น เป็นแพลตฟอร์ม e:N Architecture F ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นใหม่ที่จะนำไปใช้ในรถยนต์ EV ตระกูล e:N Series ในอนาคต หรือเป็นเพียงการนำแพลตฟอร์มของ HR-V เวอร์ชันปกติ มาดัดแปลงให้สามารถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ได้
Honda e:NP1 และ e:NS1 มีกำหนดออกจำหน่ายในประเทศจีน ในช่วงกลางปี 2022 ส่วนตลาดอื่นๆ ยังไม่มีการยืนยัน ต้องรอติดตามกันต่อไป
ที่มา : Honda