เชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายรายเคยมีประสบการณ์ Google Maps นำพาไปผจญภัยเส้นทางใหม่ ทั้งหลงทางหรือเส้นทางลึกลับ ส่วนสิ่งที่เรากำลังจะนำมาเล่านั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเมื่อ Google Maps เสนอเส้นทางหนีรถติด แต่กลับนำผู้ขับขี่นับร้อยรายไปติดหล่มแทน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเช้าวันหยุด บนถนนเส้นหลักอย่าง Peña Boulevard ที่ใช้เดินทางไปสนามบิน Denver ของรัฐ Colorado ได้ ส่วนจุดเริ่มต้นความปั่นป่วนอยู่ที่ อุบัติเหตุบนถนนเส้นดังกล่าวจนการจราจรติดขัด ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่หลายคนจะเปิด Google Maps เพื่อหาทางหนีจากความวุ่นวาย
เทคโนโลยีดังกล่าวได้เสนอเส้นทางหนึ่ง เป็นเส้นทางชนบทที่ไม่ได้ลาดยาง เลาะผ่านทุ่งนา ซึ่งดูไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ความซวยอยู่ที่ว่าพึ่งมีฝนตกไปไม่นาน ทางดินเลยกลายเป็นทางโคลน และสภาพถนนเริ่มเลวร้ายลง เพราะมีรถยนต์หลายสิบคันวิ่งผ่านอย่างต่อเนื่อง พร้อมตะกายดินจนเส้นทางเละ ท้ายที่สุด รถยนต์คันหลังๆ ที่วิ่งตามมาและไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หลายสิบคัน จึงติดแหง่กอยู่บนถนนดังกล่าว
หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากทางโคลนครั้งนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอเองก็หลงมาเส้นทางนี้เพราะ Google Maps นำพามา เนื่องจากเธอกำลังจะไปรับสามีที่สนามบิน โชคดีว่ารถยนต์ของเธอมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงตะกายออกมาได้ ทั้งยังรับเพื่อนร่วมชะตากรรม จากรถยนต์ติดหล่มคันอื่นอีก 2 คน ติดรถไปส่งจุดหมายทันด้วย
ด้าน Google Maps ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาระบบให้เสนอเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน นอกจากนั้น เส้นทางที่รถติดหล่มไม่ได้เป็นถนนส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกท่านปฏิบัติตามกฎจราจร พร้อมทั้งมีสมาธิ และใช้วิจารณญาณในการขับขี่ เนื่องจากอาจมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ส่งผลให้เส้นทางมีสภาพเลวร้ายลง เช่น อุบัติเหตุหรือสภาพอากาศ