แม้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต่างพากันชะลอแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า และหันกลับมาพัฒนารถยนต์ที่ยังมีเครื่องยนต์สันดาปเป็นส่วนประกอบต่อไป แต่นักวิเคราะห์ด้านตลาดรถยนต์จาก S&P Global Mobility มองว่าในปี 2025 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV จะยังคงเติบโตขึ้นจากปีนี้ แม้ตัวเลขในปี 2024 จะยังไม่สรุป แต่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 11.6 ล้านคัน ส่วนตัวเลขคาดการณ์ในปี 2025 อยู่ที่ 15.1 ล้านคัน หรือเติบโตขึ้นจากเดิม 29.9%

 

S&P Global Mobility ระบุด้วยว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และมีการคาดการณ์อัตราเติบโตของ EV รวมถึงส่วนแบ่งจากตลาดทั้งหมดในแต่ละพื้นที่ด้วย ดังนี้

  • ยุโรป มียอดขาย EV ในปี 2025 สูงขึ้นจากปีนี้ 43.4% และครองส่วนแบ่งจากทั้งตลาด 20.4%
  • สหรัฐฯ มียอดขาย EV ในปี 2025 สูงขึ้นจากปีนี้ 36.0% และครองส่วนแบ่งจากทั้งตลาด 11.2%
  • จีน มียอดขาย EV ในปี 2025 สูงขึ้นจากปีนี้ 19.7% และครองส่วนแบ่งจากทั้งตลาด 29.7%
  • อินเดีย มียอดขาย EV ในปี 2025 สูงขึ้นจากปีนี้ 117% และครองส่วนแบ่งจากทั้งตลาด 7.5%
  • ทั่วโลก มียอดขาย EV ในปี 2025 สูงขึ้นจากปีนี้ 29.9% และครองส่วนแบ่งจากทั้งตลาด 16.7%

 

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย EV ในปีหน้าสำหรับแต่ละนั้น S&P Global Mobility ระบุว่าในยุโรป ต่อให้ยอดขาย EV ในปีนี้จะซบเซาหลังมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐจะลดลง แต่ในปีหน้าคาดการณ์ว่ายอดขาย EV จากยุโรปตะวันตกและกลาง จะยังเติบโตขึ้นจนดึงยอดทั้งภูมิภาคขึ้นมา ส่วนตัวเลขคาดการณ์ในสหรัฐฯ ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อ เพราะนโยบายของ Donald Trump ประธานาธิบดีคนล่าสุดยังไม่แน่ชัด แถมมีการขู่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ และเปลี่ยนเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุน EV

ส่วนในจีน แม้หลายสื่อจะวิเคราะห์ว่าอาจมียอดขาย EV ในปีหน้าพุ่งกระฉูดกว่านี้ แต่ S&P Global Mobility มองว่าอัตราเติบโตได้สูงมากแล้วในตอนนี้ ทำให้ไม่น่าโตได้อีกมากนักเมื่อเทียบกับตลาดอื่น แต่จะยังโตต่อไปได้ เพราะมีทางเลือกในตลาดมากมาย และมีการตัดราคาแข่งกันอีก ซึ่งจะช่วยทั้งดันยอดขายและฆ่าแบรนด์ที่ไม่แข็งแรงพอด้วย ส่วนอินเดีย แม้จะมีอัตราเติบโตสูงเด่นกว่าตลาดอื่น แต่ EV ยังไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งจากทั้งตลาดได้เท่าใดนัก

 

ที่มา: paultan, carscoops