General Motors เป็นหนึ่งในรถยนต์ต่างชาติไม่กี่แบรนด์ ที่ได้ผลิตรถยนต์ในจีนมานานต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ขึ้นที่นั่นตั้งแต่ปี 1997 นับเป็นค่ายต่างชาติที่สองที่ได้ใบอนุญาตหลัง Volkswagen สำหรับผลการดำเนินงานนั้น GM เคยมียอดขายสูงสุดในปี 2017 โดยแตะระดับ 4 ล้านคัน ก่อนจะค่อยๆ ลดลงจนเหลือ 2.1 ล้านคันในปี 2023 และในไตรมาสที่ผ่านมา GM ขาดทุนในจีนมูลค่า 104 ล้าน USD (ราว 3,600 ล้านบาท) หรือรวมเป็น 210 ล้าน USD (ราว 7,300 ล้านบาท) สำหรับยอดขาดทุนสะสมในครึ่งแรกปี 2024
ล่าสุด มีแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลกับสื่อว่า General Motors อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยลดขนาดให้เล็กลงซึ่งจะนำไปสู่ การปลดพนักงานในหลายส่วนรวมถึงฝ่ายวิจัยและพัฒนา ทั้งยังมีแผนลดกำลังการผลิตรถยนต์ที่นั่น โดยจะมีการเจรจากับบริษัทร่วมทุนอย่าง SAIC ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนี่เป็นเหมือนสัญญาณว่า GM ยอมรับชะตากรรมแล้วว่า อาจไม่สามารถดันยอดขายขึ้นไปได้อีก
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า แผนการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจของ General Motors ในประเทศจีนอาจรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับรถยนต์ Premium ในตลาดระดับบนมากขึ้น ส่วนการผลิตรถยนต์ขึ้นในประเทศจีนร่วมกับบริษัทร่วมทุนอย่าง SAIC และ Wuling ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดจะยังคงดำเนินต่อไป รวมไปถึงการผลิตเพื่อการส่งออกด้วย
รายงานชิ้นนี้ถือว่ามีน้ำหนักพอสมควร เมื่อดูจากผลประกอบการของ General Motors ในประเทศจีนตามที่เราระบุไปข้างต้น อีกทั้งบริษัทยังเคยระบุในรายงานผลประกอบการ ที่บริษัทส่งให้กับภาครัฐของจีนด้วยว่า การแข่งขันของผู้ผลิตรถยนต์ในจีน ให้ความสำคัญกับส่วนแบ่งในตลาดมากกว่าผลกำไร ทำให้ยากมากที่จะรักษาระดับยอดขายเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้นนั้น ต้องคอยการประกาศจากทางการอีกครั้ง
ที่มา: livemint