Mercedes-Benz E-Class เป็นหนึ่งในรุ่นที่ขายดีที่สุดของค่ายดาวสามแฉก ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 14 ล้านคัน นับแต่รุ่นแรกในปี 1946 จนถึง generation ที่ 10 ในรหัส W213 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และได้รับการปรับปรุง Facelift อีกครั้งในตอนนี้ โดยพัฒนาใหม่หลายด้านทั้งภายนอก ภายใน และงานวิศวกรรม

Mercedes-Benz E-Class Facelift ใช้กระจังหน้าที่มีตราดาวสามแฉกเป็นครั้งแรก แม้ในรุ่นเริ่มต้น กันชนหน้าเพิ่มเส้นโครเมี่ยมใหม่ ไฟหน้าเป็นแบบ All-LED หรือ จะจ่ายเพิ่มเพื่อเปลี่ยนเป็นแบบ MULTIBEAM LED ก็ได้ ไฟท้ายปรับเป็นแบบสองก้อนจากเดิมที่เป็นก้อนเดิม พร้อมดีไซน์กันชนหลังใหม่ ส่วนล้อเพิ่มลายใหม่อีกหลายลาย รวมถึงลาย Aero ที่รีดลมดีกว่า

สีตัวถังเพิ่มสีใหม่อย่าง สีเงิน High Tech Silver, สีเทา Graphite Grey Metallic และ สีเงิน Mojave Silver ในรุ่นย่อย Avantgarde, AMG Line และ All-Terrain จะใช้ฝากระโปรงหน้า power domes ส่วนรุ่น All-Terrain จะมีภาพลักษณ์เหมือน SUV ยิ่งขึ้น ด้วยกาบพลาสติกรอบคัน กระจังหน้าเฉพาะรุ่น และตกแต่งโครเมี่ยม

ภายในของ Mercedes-Benz E-Class Facelift ปรับเปลี่ยนใหม่เช่นกัน ทั้งตัวเบาะและวัสดุตกแต่งที่เพิ่มทางเลือก หนัง, สีใหม่, ลายไม้หลายรูปแบบ, คาร์บอน และ อะลูมิเนียม พร้อมปรับอารมณ์ผู้โดยสารด้วยระบบ ENERGIZING ที่ควบคุมการปรับแสง, อุณหภูมิ, ดนตรี และ ตำแหน่งเบาะ

พวงมาลัยแบบมีให้เลือกสามแบบ คือ หุ้มหนังล้วน, กึ่งหนังกึ่งไม้ และ supersport ด้านระบบสั่งการด้วยเสียง MBUX ยังคงอยู่ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลคู่ ขนาดจอละ 10.25 หรือ 12.3 นิ้ว สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงค่าได้สามแบบ ประกอบด้วย Modern Classic, Sport, Progressive และ Discreet

ขุมพลังของ Mercedes-Benz E-Class Facelift มีทั้งเบนซิน ดีเซล และ Plug-in Hybrid รวม 7 แบบ ไล่ตั้งแต่ 4 – 6 สูบ ในเครื่องยนต์เบนซิน มีพละกำลัง 156 – 367 แรงม้า และ เครื่องยนต์ดีเซล มีพละกำลัง 160 – 330 แรงม้า สำหรับรายละเอียดโดยสังเขปของเครื่องยนต์ที่เปิดเผยแล้ว มีดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน

E 350 / E 350 4MATIC

แบบ 4 สูบ ขนาด 1,999 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 255 แรงม้า ที่ 5,800 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 9 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

E 350e

รหัส M254 แบบ 4 สูบ ขนาด 1,999 ซีซี. เทอร์โบ พ่วงระบบ Plug-in Hybrid 90kW และ ISG (Integrated Starter-Generator) หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นไดสตาร์ทในตัว พร้อมใช้การเคลือบลูกสูบ NANOSLIDE และ CONICSHAPE เป็นครั้งแรก กำลังสูงสุดทั้งระบบ 315 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 9 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

E 450e 4MATIC

รหัส M256 แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2,999 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 362 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,000 รอบ/นาที พ่วงระบบ EQ Boost เพิ่มกำลังจากเครื่องยนต์ 20 แรงม้า พร้อมแรงบิดอีก 180 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 9 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

AMG E 53 4MATIC+

แบบ 6 สูบ ขนาด 2,999 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G 9 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ กระจายแรงบิดแปรผัน AMG Performance 4MATIC+

ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที ในตัวถัง Saloon และ 4.6 วินาที ในตัวถัง Estate ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ สามารถปลดล็อคเป็น 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อติดตั้งเพิ่ม AMG Driver’s Package

เครื่องยนต์ดีเซล

แบบ 4 สูบ รหัส OM654 และ แบบ 6 สูบแถวเรียง รหัส OM656 (ติดตั้งพร้อมระบบ ISG ใน E-Class เป็นครั้งแรก) พ่วงระบบ integrated starter-generator (ISG) เพิ่มกำลังจากเครื่องยนต์ 20 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร พร้อมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์

Mercedes-Benz E-Class Facelift มีระบบ URBAN GUARD เป็นลูกเล่นใหม่ไว้คอยตรวจจับสิ่งแวดล้อม เมื่อผู้ขับขี่จอดรถยนต์ทิ้งไว้ โดยจะบันทึกหลักฐานพร้อมแจ้งข้อมูลผ่าน Mercedes me ในมือถือ หากพบว่ามีผู้พยายามขโมยรถ, มีวัตถุเคลื่อนไหวในห้องโดยสาร, ถูกเข็นชน หรือ กำลังจะถูกลาก สำหรับระบบความปลอดภัยอื่นที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ขับขี่ มีดังนี้

  • Active Brake Assist ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตรวจจับคนเดินถนน หรือ การข้ามเลนได้
  • Active Steering Assist ระบบหน่วงพวงมาลัยเข้าข้างทางเอง เมื่อพบว่าผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาวะที่จะควบคุมรถได้ ในขณะที่ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • Active Parking Assist with PARKTRONIC ระบบถอยจอดอัตโนมัติ ได้ทั้งเข้าซองและจอดขนาน

Mercedes-Benz E-Class Facelift เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 มีนาคม โดยมีให้เลือกเฉพาะตัวถัง Saloon และ Estate มีกำหนดการเริ่มส่งมอบที่ยุโรป ในไตรมาสที่สามของปีนี้ สำหรับตัวถังอื่นทั้ง Coupé, Cabriolet และ Saloon รุ่นฐานล้อยาวเพื่อตลาดจีน จะตามมาในภายหลัง

ที่มา: Daimler


ชมภาพเพิ่มเติมของ Mercedes-Benz E-Class Facelift ได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/official-photo-mercedes-benz-e-class-facelift-w213/

ภาพ Official : Mercedes-Benz E-Class Facelift (W213) พลิกดีไซน์ หน้า-หลัง ครั้งใหญ่ !