Ford Ranger เวอร์ชั่นออสเตรเลีย มีรุ่นย่อยใหม่มากั้นกลางระหว่างรุ่น Wildtrak และ Raptor ในชื่อ Ford Ranger Wildtrak X ซึ่งไม่ได้มีเพียงการตกแต่งพิเศษเฉพาะภายนอกและภายใน แต่ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างให้มีระยะล้อระหว่างซ้ายขวากว้างกว่า และสูงกว่ารุ่นปกติด้วยโช๊คอัพ Bilstein พร้อมกับเพิ่มเทคโนโลยีจาก Raptor มาด้วย
ภายนอกของ Ford Ranger Wildtrak X โดดเด่นด้วยสีพิเศษเฉพาะรุ่นกับสีส้ม Cyber Orange ตัดกับการตกแต่งสีดำ Asphalt Black บริเวณช่องดักลมกันชนหน้า, โลโก้ชื่อรุ่น, กระจังหน้าที่เพิ่มแถบไฟ LED มาด้วย, กระจกมองข้าง และล้อ นอกจากนั้น ยังมีบันไดข้าง, แร็คหลังคา, ฝาปิดสัมภาระกระบะด้านหลัง และบาร์กระบะที่สามารถปรับเลื่อนสไลด์ได้
ห้องโดยสารของ Ford Ranger Wildtrak X เพิ่มมาตรวัดขนาด 12.4 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว และเครื่องเสียง Bang & Olufsen บนหลังคายังเสริมช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เสริม ส่วนการตกแต่งมีทั้งวัสดุหนัง, Miko Suede, ปักชื่อรุ่น Wildtrak X บนเบาะ – แดชบอร์ด, วัสดุ Terra Suede และเดินตะเข็บด้ายสีส้ม Cyber Orange รอบคัน
ขุมพลังของ Ford Ranger Wildtrak X คงเดิมกับ เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 201 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-time พร้อมกับเสริมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่แบบ off-road หลายรายการ ประกอบด้วย
- Trail Turn Assist หยุดการหมุนของล้อด้านใน ขณะเลี้ยวบนถนนสภาพเลวร้าย เพื่อช่วยลดรัศมีวงเลี้ยว 25%
- Trail Control System ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ ความเร็วไม่เกิน 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะขับขี่บนถนนสภาพเลวร้าย ให้ผู้ขับขี่เพ่งสมาธิไปที่การควบคุมพวงมาลัย
- Rock Crawl Mode รูปแบบการขับขี่เพื่อสมรรถนะการปีนป่ายสูงสุด แบบเดียวกับ Ranger Raptor
ช่วงล่างเปลี่ยนโช๊คอัพไปใช้แบบ Bilstein Position-Sensitive Dampers with End Stop Control Valve (ESCV) ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ เมื่อรวมกับล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ระยะฐานล้อฝั่งซ้ายขวาจึงกว้างขึ้นจากเดิม 30 มิลลิเมตร และเพิ่มความสูงขึ้นจากเดิมอีก 26 มิลลิเมตร Ford Ranger Wildtrak X จะเริ่มส่งมอบในครึ่งหลังปี 2023 สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ออสเตรเลีย 75,990 AUD (ราว 1,722,000 บาท)