Ford ได้แยกส่วนการดำเนินงานออกเป็นสองส่วนหลัก ตามประเภทขุมพลังผลิตภัณฑ์ในช่วงต้นปี 2022 แบ่งเป็น Ford Blue ที่ดูแลรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และ Ford Model e ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้า บ่งบอกความจริงจังในการเจาะตลาด EV อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากลับไม่ดีดังที่คาด นำไปสู่สภาวะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้รวมถึง Ford เองที่เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา

Ford เปิดเผยว่าในไตรมาส 2 ของปี 2024 ภาคส่วน Ford Model e ขาดทุนมูลค่า 1,100 ล้าน USD (ราว 39,000 ล้านบาท) โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ Ford มียอดขาย EV ในสหรัฐฯ เป็นจำนวน 23,957 คัน ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นยอดขาดทุนต่อคัน มูลค่าจะสูงถึง 47,600 USD (ราว 1,692,000 บาท) และมีการคาดการณ์ด้วยว่า สถานการณ์ขาดทุนของ EV จาก Ford จะดำเนินต่อไป

 

มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าขาดทุนสะสม Ford Model e ตลอดปี 2024 จะอยู่ที่ 5,000 – 5,500 ล้าน USD (ราว 177,000 – 195,000 ล้านบาท) ซึ่งแม้จะฟังดูน่าเป็นห่วงแต่อันที่จริงแล้ว สถานการณ์ในไตรมาสสอง ได้ดีขึ้นจากไตรมาสแรก เพราะ EV มียอดขายสูงขึ้น 61% แต่เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งแบรนด์จะพบว่า สัดส่วนของ Ford EV จะอยู่ที่ราว 4% จากยอดขายทั้งหมดของ Ford ในครึ่งแรกของปี 2024

มีรายงานอีกชิ้นด้วยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Ford ได้ลดจำนวนแบตเตอรี่สำหรับ EV ที่สั่งจากบริษัทคู่ค่าสามแห่งทั้ง SK On Co., LG Energy Solutions Ltd., และ CATL แม้จะไม่มีข้อมูลว่าลดจำนวนเท่าใด แต่ค่อนข้างแน่ชัดว่า Ford ยังรักษาสัญญาที่ทำเอาไว้อยู่ ปิดท้ายด้วยการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ EV Ford น่าจะดีขึ้นในอนาคต เพราะการลงทุนใหม่จะหนักแค่ในช่วงแรกเท่านั้น เพียงแต่ยังมีปัจจัยอื่นให้ลุ้นด้วย ทั้งยอดขายและความต้องการจากตลาด

 

ที่มา: carscoops