หลัง Fisker ยื่นล้มละลายไปในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ที่กังวลหนักไม่ต่างจากพนักงานหรือผู้ถือหุ้นคือผู้ที่ซื้อ Fisker ไปใช้งานแล้ว ซึ่งมีจำนวนอยู่ราว 6,400 คน โดยต่างเกิดความวิตกกังวลว่า หลังจากนี้พวกเขาจะทำอย่างไรต่อเรื่องบริการหลังการขาย เพราะในขณะที่บริษัทยังอยู่นั้น ยังมีประเด็นค้างคารอการแก้ไขอยู่มากมาย แล้วยิ่งในวันที่บริษัทจากไปเช่นนี้ ใครจะรับผิดชอบ Fisker ของพวกเขาต่อ
ย้อนกลับไปดูสถานการณ์ก่อนหน้าในวันที่ Fisker ยังดำเนินธุรกิจอยู่ก่อน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นมีทั้งคุณภาพงานประกอบ หรือชิ้นส่วนเสียหายแต่กลับใช้เวลานานในการรออะไหล่ทดแทน ไม่เพียงแค่นั้น บางคันรับรถมาแล้ว โดยที่ยังไม่ได้รับการติดตั้ง software ระบบ infotainment หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ซึ่งบริษัทระบุว่าจะติดตั้งให้ภายหลัง จนถึงตอนนื้ ผู้บริโภคหลายรายมีแค่เอกสารเคลมอยู่ พร้อมปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ส่วนต้นตอของปัญหา Fisker รออะไหล่นานนั้น มีรายงานว่าเกิดขึ้นจากการที่บริษัทเชื่ออย่างผิดๆ ว่ารถยนต์ของพวกเขาสร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องสต็อคอะไหล่เป็นจำนวนมาก สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่กล่าวไป และในวันที่บริษัทใกล้จะล้ม Fisker ได้ปลดพนักงานจำนวนมาก ทำให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าไม่เพียงพอ ทั้งฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และช่างเทคนิค ยิ่งเพิ่มพูนปัญหาให้สาหัสเข้าไปอีก
จนท้ายที่สุด เมื่อวันที่บริษัทล้มละลายมาถึง ผู้ใช้งาน Fisker จำนวนหยิบมือหนึ่งนำโดย De Bardi ได้จัดตั้งสมาคมผู้ใช้งาน Fisker หรือ Fisker Owners Association ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าจะหาทางช่วยเหลือกันเอง ให้สมาชิกยังสามารถใช้งาน Fisker ได้ต่อไป และเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการก่อตั้ง สมาคมสามารถรวบรวมสมาชิกเจ้าของรถยนต์ Fisker ได้มากกว่า 1,200 ราย หรือคิดเป็น 20% จากยอดขายสะสมทั้งหมด
เบื้องต้น มีรายงานว่าสมาชิกของสมาคมที่พอมีความรู้ จะเป็นอาสาสมัครหาทางออกในการแก้ไขปัญหา software ที่หลายคนประสบพบเจออยู่ รวมไปถึงการค้นหาชิ้นส่วนทดแทน และไขข้อสงสัยเรื่องคำถามด้านกฎหมายด้วย แต่ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา เนื่องจากอาสาสมัครส่วนใหญ่ต่างมีงานประจำที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างมองว่า สถานการณ์ของผู้ใช้งาน Fisker น่าเป็นห่วง
ประเด็นที่น่าเป็นห่วงลูกค้าของ Fisker ไม่ได้มีแค่เรื่องหาอะไหล่ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากรถยนต์ ที่หลายคันยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระไม่ได้ ตามมาด้วยเรื่องมูลค่าขายต่อตกต่ำ ซึ่งเดิมทีก็ต่ำมากอยู่แล้ว และยังมีประเด็นเรื่องเบี้ยประกันภัยภัยสูงขึ้น สุดท้ายแล้วรถยนต์ Fisker อาจมีจุดจบด้วยการขายซาก จากปัญหาที่มีอาจเล็กน้อยแต่ไม่สามารถแก้ได้ เพราะย้อนไปเรื่องที่ว่า ไม่มีคนซ่อมและไม่มีชิ้นส่วนทดแทน
อ่านข่าว Fisker ยื่นล้มละลายแล้ว ได้ที่
>> https://www.headlightmag.com/news-fisker-has-already-filed-bankruptcy/