หลัง Fisker บริษัท startup รถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ได้ยื่นล้มละลายไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทจึงต้องยกเลิกสัญญาเช่าอาคาร La Palma ใน California ไว้ทำสำนักงานใหญ่ ซึ่งค่าเช่าสูงกว่าเดือนละ 80,000 USD (ราว 2,651,000 บาท) ต่อมา เจ้าของอาคาร Shamrock Properties ได้กำหนดไว้ว่า Fisker ต้องคืนพื้นที่ให้กับผู้ให้เช่าในวันที่ 27 กันยายน 2024 และเมื่อพวกเขาเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ กลับต้องพบปัญหามากมาย
ตัวแทนของ Shamrock Properties ระบุว่าสิ่งที่ Fikser ทิ้งเอาไว้ในอาคารนั้น เต็มไปด้วยขยะหลากหลายชนิด ไม่ใช่แค่อุปกรณ์สำนักงาน แต่รวมไปถึงถังน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีของเหลวซึ่งระบุไม่ได้ว่าเป็นอะไร แบตเตอรี่รถยนต์หลักสิบลูก ชิ้นส่วนรถยนต์ หรือแม้กระทั่งรถยนต์ต้นแบบดินเหนียว สเกลเต็มคันอย่างกระบะ Alaska และสปอร์ต Ronin Convertible ก็มีด้วย ทั้งยังมีรถยนต์ Fisker ทิ้งเอาไว้ในลานจอดรถอีกหลายคัน
เจ้าของพื้นที่ยังระบุว่าพบความเสียหายในหลายจุด ซึ่งเมื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม รวมถึงกำจัดขยะมีพิษที่กล่าวไปข้างต้นนั้น อาจสูงหลักหลายหมื่น USD (10,000 USD = ราว 331,000 บาท) แถมความวุ่นวายไม่จบแค่นั้น เพราะ Shamrock Properties ได้รับการติดต่อจาก Heritage Global Partners (HGP) ว่า Fisker ได้รับข้อเสนอประมูลสินค้าบางส่วนไปแล้ว แต่ไม่สามารถนำสิ่งของดังกล่าวออกจากพื้นที่ได้ตามกำหนด
Shamrock Properties จึงกุมขมับหนักกว่าเดิม เพราะไม่รู้เลยว่าข้าวของที่ Fikser ทิ้งไว้นั้นมีใครเป็นเจ้าของบ้าง ชิ้นไหนกำจัดได้ ชิ้นไหนยึดมาจำหน่ายเพื่อชดเชยค่าเสียหายได้ แถมยังมีรายงานด้วยว่าในวันที่ 27 กันยายน 2024 ซึ่งเป็นวันที่ Fisker ต้องคืนพื้นที่กลับมีกลุ่มบุคคลลึกลับ ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครเข้าพื้นที่มาขนของมีค่าออกจากสำนักงาน ‘อย่างเร่งรีบ’ สอดคล้องกับสภาพอาคารที่ดูเหมือนถูกยกเค้า สุดท้ายแล้วก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ใครจะชดใช้ความเสียหาย ให้กับผู้ให้เช่าพื้นที่และผู้ที่มาประมูลของไปจาก Fikser
อ่านข่าว Fisker ยื่นล้มละลายแล้ว ได้ที่
>> https://www.headlightmag.com/news-fisker-has-already-filed-bankruptcy/