ต่อไปนี้ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ใหม่รุ่นใดก็ตามในสหรัฐฯ จะได้อุปกรณ์มาตรฐานติดรถยนต์เพิ่มมาอีก 1 รายการ หลังจากที่ทางการได้ออกกฎหมายบังคับ ให้รถยนต์ใหม่ทุกคันที่ผลิตหลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ต้องมีกล้องมองหลังมาให้ด้วย

การออกกฎในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมาตรฐานโดย กรมขนส่งของสหรัฐฯ (U.S. Department of Transportation) ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2014 โดยในส่วนของกล้องมองหลังนั้น ผู้สนับสนุนแนวคิดได้เริ่มขั้นตอนยื่นคำร้อง ตั้งแต่สมัยที่ George W. Bush ยังเป็นประธานาธิบดี หรือเมื่อราว 10 ปีที่แล้วเลยทีเดียว

องค์กรสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนอย่าง Advocates for Highway & Auto Safety ได้แสดงความเห็นว่า มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเงินของผู้บริโภคไปด้วย เนื่องจากผู้บริโภคหลายรายต้องเสียเงินราว 100 – 200 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 3,000 – 6,000 บาท) ในการซื้อกล้องมาติดเอง

ในรถยนต์บางรุ่น ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อกล้องมองหลัง เป็นอุปกรณ์เสริมจากโรงงานได้ แต่บริษัทรถยนต์มักจะขายพ่วงเป็น package โดยพ่วงอุปกรณ์อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้วย เช่น เบาะหนัง ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ภาระค่าใช้จ่ายตกกับผู้บริโภคสูงขึ้นไปอีก

สำหรับการส่งเสริมความปลอดภัยขั้นต่อไป คือการติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติ ที่รวมไปถึง ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร และระบบเตือนจุดอับสายตา เป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในปี 2022 ล่าสุด มีผู้ผลิตรถยนต์จำนวน 20 ราย แสดงเจตนาให้ความร่วมมือแล้ว แต่หลายฝ่ายยังอยากให้เกิดขึ้นเร็วกว่านี้ เนื่องจาก IIHS เผยสถิติที่พิสูจน์ได้ว่า ระบบเหล่านี้สามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา: caranddriver