Volvo เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ประกาศว่าจะเป็นแบรนด์ ที่จำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในปี 2030 พร้อมตั้งเป้าให้ 50% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2025 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ยอดขาย EV ในสหรัฐฯ ของแบรนด์รถสวีเดนค่ายนี้จะไม่เป็นใจเท่าใดนัก เพราะทางการได้เปิดเผยยอดขายในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ และพบว่ายอดขาย EV ได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 69% ดังรายละเอียดต่อไปนี้

ยอดขาย Volvo ที่สหรัฐฯ เดือนมกราคม – เมษายน 2024

(เปรียบเทียบกับยอดของช่วงเดียวกันในปี 2023)

  • ยอดขายรวมทุกรุ่น: 41,555 คัน (เพิ่มขึ้น 15%)
  • ยอดขายเฉพาะ EV: 1,298 คัน (ลดลง 69%)
  • ยอดขายเฉพาะ PHEV: 10,124 คัน (เพิ่มขึ้น 55%)
  • ยอดขายเฉพาะ Mild Hybrid & เครื่องยนต์สันดาป: 30,133 คัน (เพิ่มขึ้น 18%)

 

มีการวิเคราะห์ว่าส่วนหนึ่งที่รถยนต์ไฟฟ้า Volvo ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใดนักในอเมริกา เพราะมีตัวเลือกน้อย โดยมีให้เลือกเพียง XC40 Recharge และ C40 Recharge แถมค่าตัวยังสูงกว่าคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Tesla Model Y ที่เล่นสงครามราคาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นที่ 44,990 USD (ราว 1,629,000 บาท)

ซึ่งนั่นมีราคาถูกกว่า Volvo XC40 Recharge ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 52,450 USD (ราว 1,899,000 บาท) ส่วน C40 Recharge สนนค่าตัวจาก 53,600 USD (ราว 1,940,000 บาท) แถม Volvo ยังปฏิเสธที่จะเล่นสงครามราคา และรักษาเพดานกำไรสุทธิต่อหน่วยไว้ที่ 16% ต่อคัน ส่วนอนาคตคาดว่าการเปิดตัว EX30 และ EX90 น่าจะช่วยเพิ่มยอดขาย EV ของ Volvo ในสหรัฐฯ ได้บ้าง แต่อาจไม่ถึงกับพุ่งแรงจนขึ้นเป็นผู้นำของตลาด

 

ที่มา: carscoops