ความสัมพันธ์ระหว่าง Mercedes-Benz และ Aston Martin Lagonda ไม่ได้เป็นแค่เพียงคู่ค้าเชิงเทคนิค ที่ผลิตเครื่องยนต์และโครงสร้างไฟฟ้าให้เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ Aston Martin อีกด้วย โดยค่ายดาวสามแฉกได้แสดงเจตนารมณ์ ที่จะเพิ่มสัดส่วนหุ้นเป็น 20% ภายในปี 2023 ทำให้มีความสำคัญกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษมากจนผู้บริหารเอ่ยปาก

Roberto Fedeli ผู้ดำรงตำแหน่ง Group Chief Technical Officer ของ Aston Martin Lagonda ระบุว่าความท้าทายใหญ่ คือการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้ผ่านเกณฑ์ Euro 7 ซึ่งถ้าไม่มี Mercedes-Benz บริษัทน่าจะลำบาก เพราะ Mercedes ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตเครื่องยนต์ให้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโครงสร้างระบบไฟฟ้าต่างๆ และบริษัทยังนำ platform สำหรับ DB12 จาก Mercedes-Benz มารวมกับชิ้นส่วนใหม่ด้วย

 

ในส่วนของขุมพลัง V12 จาก Aston Martin นั้นมีการเปิดเผยก่อนหน้านี้แล้วว่าจะยุติการผลิตราวปี 2026 เนื่องจากเกณฑ์ควบคุมมลพิษที่เข้มงวดขึ้น ทั้งยังไม่มีการพัฒนา V12 ตัวใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่จะเป็นการปรับแต่ง V12 ในปัจจุบันให้ผ่านเกณฑ์ควบคุม สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดอื่น จะยังมีตามมาอีกหลายรุ่น

นอกจากนั้น รถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายจะนำความรู้ที่ได้จากรถแข่งสูตร 1 มาปรับใช้ด้วย ส่วน Aston Martin ขุมพลัง EV คันแรกของค่าย ผู้บริหารรายเดิมระบุว่า ให้คอยติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ และมีรายงานว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Aston Martin จะมีขึ้นที่โรงงานใน Gaydon ซึ่งมีแผนขยายขนาดให้รองรับภายในอนาคตอันใกล้ด้วย

 

ที่มา: motor1