สงครามกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีท่าทีไปในทางคลี่คลายขึ้น หลังผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ได้หารือกันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้แดนมังกรประกาศ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ เหลือ 15% เป็นเวลานาน 3 เดือน ส่วนเมืองลุงแซมเองก็ประกาศ เลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปก่อน
เดิมทีประเทศจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ จำนวน 144 รุ่น อีก 25% สูงขึ้นจากเดิมที่คิดในอัตรา 15% ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ผลิตต้องจ่ายภาษีทั้งหมดในอัตรา 40% เลย แต่ในตอนนี้ ภาครัฐได้ประกาศแล้วว่าจะคิดภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราเดิมที่ 15% ไปก่อน โดยจะมีผลระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2019
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศจีนยังเปิดเผยด้วยว่า เขาหวังให้ผู้มีอำนาจของทั้ง 2 ประเทศเจรจาต่อไป เพื่อยกเลิกกำแพงภาษีที่เพิ่มเข้ามา จากการเปิดศึกสงครามการค้าเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนประเทศสหรัฐฯ เองได้ประกาศเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 6,565,000 ล้านบาท) ออกไปจากเดิมที่วางแผนให้มีผลในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า
ด้านผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเมริกัน ต่างเห็นดีเห็นงามกับกลยุทธ์นี้ด้วย รวมไปถึง Ford ที่ระบุว่าบริษัทขอขอบคุณภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศที่ได้ร่วมมือกัน ทลายกำแพงการค้าและเปิดตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น เห็นทีต้องติดตามชมต่อแล้วว่า ประธานาธิบดีจากทั้ง 2 ฝั่งอย่าง Donald Trump และ Xi Jinping จะเปลี่ยนใจเลิกตั้งกำแพงภาษีใส่กันไปตลอดหรือไม่
ที่มา: caranddriver, carscoops