กล่าวได้ว่า Ford มีแต่รถยนต์ขนาดใหญ่จำหน่าย ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในสหรัฐฯ ด้วยเพราะนอกจากรถกระบะและรถยนต์ SUV เห็นจะมีเพียงแต่ Ford Mustang เท่านั้น ที่เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ขนาดเล็กสุดของค่ายออกขายอยู่ แต่ดูเหมือนว่าในอนาคต เราจะได้เห็นรถยนต์ขนาดเล็กลงจากค่ายนี้มากขึ้น หลัง CEO ของบริษัทออกมาให้สัมภาษณ์ เชิญชวนให้คนหันมาสนใจรถยนต์ขนาดที่เล็กกว่า

Jim Farley ตำแหน่ง CEO ของ Ford ยืนยันว่าบริษัทจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงจนถึงรากฐาน โดยในอนาคตจะเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งสามารถทำกำไรได้มากขึ้น แม้เขามองว่าผู้บริโภคต่างชอบรถยนต์ขนาดใหญ่รวมไปถึงตัวเขาเอง แต่ต้องยอมรับว่ารถยนต์ขนาดใหญ่เหล่านี้ มีปัญหาเรื่องน้ำหนักจน Ford ตระหนักว่าเราควรกลับไปหลงรักรถยนต์ขนาดที่เล็กกว่า

 

Farley ให้เหตุผลว่ารถยนต์ขนาดเล็กนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม รวมไปถึงการปรับตัวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับอธิบายเสริมว่ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไม่สามารถทำผลกำไรให้บริษัทได้ เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่มาก เพื่อให้มีขีดความสามารถในการขับขี่ระยะไกล นำไปสู่ต้นทุนที่สูงเพราะแบตเตอรี่ที่มีขนาดดังกล่าวอย่างเดียว อาจมีราคาสูงถึง 50,000 USD แล้ว (ราว 1,831,000 บาท)

การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของ Ford ที่เลื่อนการเปิดตัว SUV เบาะสามแถวขุมพลัง EV ออกไปก่อน รวมถึงการเลื่อนกำหนดเปิดตัวกระบะ EV รหัส T3 เป็นปี 2026 ส่วนรถยนต์ขนาดเล็กที่ Ford อาจทำออกมานั้น Farley เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าว่า บริษัทกำลังพัฒนา platform ขึ้นใหม่อยู่ โดยมีรายงานว่าจะเปิดตัวในปี 2027 พร้อมค่าตัวระดับ 30,000 USD (ราว 1,098,000 บาท) และ Ford เชื่อมั่นว่า EV รุ่นนี้จะสร้างผลกำไรให้บริษัทได้

 

ที่มา: jalopnik, electrek