หลังอดีตผู้บริหารของ Nissan ได้กลายสถานะเป็นผู้ลี้ภัย และหลบหนีจากประเทศญี่ปุ่น ระหว่างเทศกาลปีใหม่ ในที่สุด Carlos Ghosn ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อหลายแขนง เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เราจึงนำประเด็นที่น่าสนใจหลายประการมาสรุปให้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของเขา และสาเหตุที่เขาเลือกเดินทางนี้
มาเริ่มต้นกับวิธีการหลบหนีกันก่อน โดย Carlos Ghosn ระบุว่าข่าวที่ออกไปก่อนหน้าเต็มไปด้วยข่าวลือ รวมไปถึงเรื่องที่เขาซ่อนตัวในกล่องใส่เครื่องดนตรีด้วย และเขายังรู้สึกตลกกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่ว่าเขาต้องเสียเงินจำนวนมาก เพื่อเคลียร์เส้นทางก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน โดยเขาระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากขนาดนั้นหรอก อีกทั้งการทำขั้นตอนให้ง่าย ยิ่งทำให้มีโอกาสสำเร็จมากกว่าด้วย
ทั้งนี้ Carlos Ghosn ไม่ขอเปิดเผยขั้นตอนการหลบหนีว่า ทำอย่างไรถึงออกจากญี่ปุ่นมาโผล่ที่ตุรกี ก่อนจะหนีเข้าเลบานอนมาได้ แต่เขาเปิดเผยว่าเขารู้สึกแย่ที่หลายคน ที่ช่วยเหลือเขาในตุรกีอาจได้รับบทลงโทษ แต่เขาขอย้ำว่าทุกคนในขบวนการทราบดีว่า ความเสี่ยงที่ตามมาอาจมีอะไรบ้าง ส่วนความรู้สึกขณะเดินทางนั้น เขาบอกว่าอึดอัดมาก เพราะทราบดีว่าอาจถูกคุมตัวกลับไป ในเวลาที่เขาไปถึงเลบานอน เขาถึงรู้สึกว่าราวกับเกิดใหม่เลย
ส่วนสาเหตุที่เขาเลือกที่จะเป็นผู้ลี้ภัยนั้น Carlos Ghosn ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้คิดที่จะหลบหนีเพื่อซ่อนตัว แต่เขาต้องการล้างมลทินชื่อของเขา ด้วยการกลับเขาสู่กระบวนการยุติธรรมในเลบานอน แม้เขาจะทราบดีว่าสถานะของผู้ลี้ภัย มีภาพลักษณ์ติดลบในสายตาคนทั่วไป แต่เขารู้สึกว่าเขาสิ้นหวังแล้วในญี่ปุ่น เพราะที่นั่นไม่มีความยุติธรรมที่เขาต้องการ เขาจึงเลือกที่จะออกมาหาความยุติธรรมจากที่อื่น
สำหรับสิ่งที่ Carlos Ghosn ต้องเจอระหว่างที่ถูกคุมตัวนั้น เขาระบุว่าเป็นฝันร้ายกันเลย เพราะเขาถูกสอบสวนอย่างต่อเนื่องวันละแปดชั่วโมง ทั้งยังไม่มีสิทธิ์พบทนาย และยังได้รับคำขู่ว่าครอบครัวของเขาอาจเป็นอันตราย หากเขาไม่รับสารภาพ และเขายังเปิดเผยด้วยว่า เขาไม่ได้พยายามติดต่อกับ Greg Kelly ที่ถูกจับกุมพร้อมเขาเลย เนื่องจากเป็นเงื่อนไขของการประกันตัวว่าห้ามติดต่อกัน
Ghosn ยังเชื่ออย่างไม่สงสัยเลยว่า เขาตกเป็นเหยื่อของทฤษฎีสมคบคิดของผู้บริหาร Nissan ที่ต้องการจะกลับไปบริหารบริษัทตามแบบฉบับของญี่ปุ่น โดยเขาเชื่อว่า อดีต CEO ของ Nissan อย่าง Hiroto Saikawa และ อดีต Senior VP อย่าง Hari Nada คือหนึ่งในขบวนการที่ทำให้เขาถูกจับกุม ทั้งนี้ โฆษก Nissan ไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ระบุว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตามความผิดที่ Ghosn ได้ทำเอาไว้
ส่วนภาครัฐของญี่ปุ่นระบุว่าจะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อนำ Carlos Ghosn กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศ ทั้งยังระบุด้วยว่าการที่ Ghosn ให้ร้ายกระบวนการทางยุติธรรมเป็นสิ่งที่มากเกินไป ทั้งนี้ Ghosn ดูจะไม่แยแสอะไรต่อไป เพราะมีรายงานว่าเขาเตรียมเปิดเผยข้อมูลเพิ่มอีก ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเขายังทิ้งท้ายด้วยว่า เขาเสียใจที่ปฏิเสธขอเสนอจากทีมงาน Obama ที่เชิญเขาไปเป็น CEO ของ GM ในปี 2009