สาเหตุที่หลายคนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์สันดาป คือการลดค่าใช้จ่ายด้วยค่าเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่า แต่กลายเป็นว่าชาวอังกฤษกำลังประสบปัญหากับเบี้ยประกันภัยรถยนต์แทน หลังมีกระแสผู้ใช้ EV ในอังกฤษแชร์เรื่องราวการต่อประกันรถยนต์ไฟฟ้าของตน แล้วพบความไม่ปกติหลายราย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธการต่อประกัน หรือขึ้นราคาจากปีก่อนหลายเท่าตัว

เรื่องราวแรกเป็นของชายชื่อว่า David เจ้าของ Tesla Model Y เปิดเผยกับสื่อว่า ในปีก่อนเขาซื้อประกันรถยนต์กับ Aviva โดยเสียเบี้ยประกันภัยปีละ 1,200 ปอนด์ (ราว 53,000 บาท) แต่ในปีนี้ เขากลับได้รับจดหมายแจ้งจากบริษัทว่า มีการเปลี่ยนนโยบายไม่ให้ความคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป เขาจึงหาทางเลือกทดแทนด้วยการติดต่อขอข้อมูลเบี้ยประกันภัยจากบริษัทใหญ่ในอังกฤษอย่าง Axa และ Vitality แต่กลับถูกปฏิเสธทั้งหมด

 

ในที่สุด เขาก็เจอ Direct Line ที่เสนอให้ความคุ้มครอง EV แต่เบี้ยประกันภัยกลับสูงถึงปีละ 4,500 ปอนด์ (ราว 201,000 บาท) ซึ่งเขาไม่สามารถจ่ายเป็นเงินก้อนไหว เลยจำใจเลือกการผ่อนชำระที่มีดอกเบี้ย จนยอดรวมอยู่ที่ 5,000 ปอนด์ (ราว 223,000 บาท) ตัวเลขนี้ไม่ได้สูงขึ้นมากจากเบี้ยประกันปีก่อนของ EV เท่านั้น แต่ยังแพงกว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์เบนซิน ที่คิดเบี้ยเฉลี่ยปีละ 1,087 ปอนด์ (ราว 48,000 บาท) และ 1,119 ปอนด์ (ราว 50,000 บาท) สำหรับรถยนต์ดีเซล

Alex Gerlis เจ้าของ Smart EQ Forfour ได้แชร์เรื่องราวของเขาเช่นกันว่า เขาถูกบริษัทประกันภัย John Lewis ปฏิเสธให้ความคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าต่อในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายหยุดให้ความคุ้มครอง EV ชั่วคราว พร้อมให้เหตุผลว่า บริษัทได้ทำการประเมินความเสี่ยงในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแม้ชิ้นส่วนจะน้อยกว่ารถยนต์สันดาปมาก แต่ราคาซ่อมแซมแต่ละส่วนนั้นสูงกว่า

 

ที่มา: gbnews, carscoops