By Gigabright
นาทีนี้ถ้าปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสของพลังงานสะอาดรักษ์โลก ในอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นกำลังเป็นประเด็นที่ทุกค่ายรถยนต์ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจุดจบของยุคเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal combustion engine หรือ ICE) กำลังเข้าใกล้เข้ามาทุกทีๆเช่นกัน โดยอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่ตบเท้าเข้าร่วมขบวนไปด้วยก็คือ BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนนั่นเอง
หรือถ้าจะพูดให้เคลียร์ยิ่งขึ้น คงต้องบอกว่าไลน์ผลิตเครื่องยนต์ ICE ล้วนของ BYD นั้นกำลังจะไม่มีอีกต่อไปแล้วมากกว่า เพราะหลังจากเดือนนี้เป็นต้นไป BYD จะมีเพียงรถยนต์ขุมพลังแบบลูกผสมหรือ Plug-in hybrid และไฟฟ้าล้วนหรือ EV ให้ลูกค้าได้เลือกแล้วเท่านั้นเพื่อเป็นการขานรับนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซมลพิษภายในปี 2030 ซึ่งมีค่ายรถยนต์จำนวนหนึ่งที่ให้ความสนใจและเข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้
อาทิ Volvo, Ford, General Motors, Mercedes-Benz และ Jaguar-Land Rover โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะทำให้เครื่องยนต์ชนิดสันดาปนั้นหมดไปอย่างสิ้นเชิงในปี 2040 แต่ถึงอย่างนั้นลูกค้าของ BYD ที่เป็นเจ้าของรถยนต์เครื่อง ICE ก็ไม่ต้องวิตกกันไปเพราะทาง BYD ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะยังคงมีการผลิตและจัดเก็บอะไหล่สำหรับรถยนต์กลุ่มนี้ไว้ให้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องจนครบอายุของรถอย่างแน่นอน
สำหรับยอดขายรถยนต์ของ BYD ในเดือนมีนาคมปีนี้นั้นนับว่าเป็นการก้าวกระโดดอย่างมาก เพราะสามารถทำตัวเลขไปได้ถึง 104,878 คัน ซึ่งคิดเป็น 333% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้วที่มียอดขาย 24,218 คัน นับเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ของ BYD เลยทีเดียว โดยในตัวเลขมหาศาลนี้ประกอบไปด้วยรถ EV จำนวน 53,664 คัน, รถ Plug-in hybrid 50,674 คัน และรถ NEV หรือรถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (Neighborhood Electric Vehicle คือรถพลังงานไฟฟ้าล้วนชนิดเสียบปลั๊กที่มีความเร็วสูงสุดไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ) อีก 540 คัน
ก็ต้องมาดูกันว่าการเข้ามาของ BYD สู่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยนั้นจะมีกระแสตอบรับไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของรถยนต์ BYD และค่ายอื่นๆได้ทาง Headlightmag.com เช่นเคยครับ
ที่มา : autonews