การประกาศขึ้นราคารถยนต์ในปีหน้า ไม่ได้มีขึ้นแต่ในประเทศไทยเท่านั้นตามที่หลายคนเห็น แต่ยังเกิดขึ้นในจีนด้วย โดยมี BYD เป็นผู้ประกาศนโยบายดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่ามีความจำเป็นต้องขึ้นราคาขายรถยนต์ในกลุ่ม Dynasty, Ocean และ Denza รุ่นละ 2,000 – 6,000 หยวน (ราว 10,000 – 30,000 บาท) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นไป

BYD ให้เหตุผลสนับสนุนว่า มีสองสาเหตุที่นำไปสู่การขึ้นราคาประกอบด้วย ราคา lithium ซึ่งใช้ในการทำแบตเตอรี่พุ่งสูงขึ้นจากตันละ 50,000 หยวน (ราว 249,000 บาท) ในช่วงต้นปี 2021 เป็นตันละ 600,000 หยวน (ราว 2,996,000 บาท) นอกจากนั้น ภาครัฐยังยกเลิกการให้เงินสนับสนุนรถยนต์พลังงานทางเลือกด้วย

 

เดิมทีรัฐบาลจีนให้เงินสนับสนุนรถยนต์ขุมพลัง plug-in hybrid คันละ 4,800 หยวน (ราว 23,000 บาท) และ 12,600 หยวน (ราว 62,000 บาท) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV มีรายงานด้วยว่าปัจจุบัน BYD มียอดจองรถยนต์รอส่งมอบคงค้างมากกว่า 500,000 คันในประเทศจีน ซึ่งอาจใช้เวลาราว 6 เดือน ถึงจะส่งมอบรถยนต์นี้ได้ครบทั้งหมด หากมีผู้ใดต้องการซื้อ BYD ในราคาเดิมอยู่ ยังทำได้ด้วยการจองรถก่อนวันสิ้นปีนี้

มีประเด็นที่น่าสนใจด้วยว่า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แบรนด์อื่นกลับประกาศลดราคารถยนต์ในจีน ทั้ง Tesla ที่ลดราคา Model 3 และ Model Y ลง 14,000 – 28,000 หยวน (ราว 69,000 – 139,000 บาท) อีกรายคือ Nio ที่ประกาศมอบเงินอุดหนุนมูลค่า 6,350 – 12,600 หยวน (ราว 31,000 – 62,000 บาท) ให้กับผู้ที่ซื้อ ES8, ES6, EC6, ET7 และ ES7 ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2022

 

ที่มา: carnewschina