ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่า BYD กำลังพิจารณาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2 ของยุโรป เพื่อมาเสริมทัพโรงงานแห่งแรกในยุโรป ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในฮังการี และจะมีกำลังการผลิตปีละ 200,000 คันต่อปี โดยนั่นอาจไม่เพียงพอหาก BYD ต้องการจะเป็นหนึ่งในผู้นำผู้ผลิต EV ในยุโรปในปี 2030 ล่าสุด มีการยืนยันจากภาครัฐว่า โรงงานที่ว่านี้อาจตั้งอยู่ในตุรกี

Fatih Kacir รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของตุรกี ยืนยันกับสื่อว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างการเจรจากับ BYD และ Chery เรื่องตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว และอยากให้มีการสรุปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เนื่องจากได้มาไกลกันแล้วทั้งคู่ นอกจากนี้ ตุรกียังมีการเจราจากับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนค่ายอื่นอย่าง SAIC Motor และ Great Wall Motor อีกด้วย

 

สาเหตุที่ตุรกีเนื้อหอมนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะว่าทำเลที่ตั้งของประเทศ เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรปเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยที่ตุรกีเป็นสมาชิกของสหภาพศุลกากร (Custom Union) ของสหภาพยุโรป ทำให้การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นที่นี่และส่งออกไปยังยุโรป จะช่วยลดกำแพงภาษีที่ EU เตรียมตั้งเพื่อสะกัดการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนได้

นอกจากนั้น ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศตุรกีเองนั้นพอไปได้ โดยยอดขาย EV ในปี 2023 ได้เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ถึงแปดเท่าเป็น 69,000 คัน และมีการประเมินว่าอาจแตะระดับ 180,000 คันในปี 2025 แถมตุรกีเองยังพึ่งตั้งกำแพงภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในอัตรา 40% ด้วย เพื่อเป็นการปกป้อง TOGG แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศหนึ่งเดียวของตุรกี ซึ่งการตั้งโรงงานที่นี้ หมายความว่าจะทำตลาดแข่งได้อีกตลาดด้วย

 

ที่มา: carscoops, fleeteurope


อ่านข่าว BYD กำลังพิจารณาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2 ของยุโรป ในปี 2025 ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-byd-may-establish-the-2nd-plant-in-europe-by-2025/