แม้ว่า BMW M3 รุ่นหลังจะมีแต่รุ่น 4 ประตูให้เลือก ซึ่งแตกต่างจากบรรพบุรุษของมัน แต่ค่ายใบพัดฟ้าขาวยังสานต่อเจตนารมณ์รุ่นพิเศษที่เริ่มไว้ตั้งแต่ BMW M3 Evolution ตัวถัง E30 ปี 1988 ที่ในวันนี้ได้กลายร่างเป็น BMW M3 CS ซึ่งมากับหน้าตาพร้อมรบในสนามแข่ง แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

BMW M3 CS มากับไฟหน้าแบบ Twin LED พร้อมกันชนหน้าที่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ 3 ช่อง เสริมด้วยสเกิร์ตหน้า, ดิฟฟิวเซอร์หลัง และสปอยเลอร์หลังที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อช่วยสร้างแรงกดอากาศ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนฝากระโปรงหน้า และหลังคาไปใช้วัสดุแบบเดียวกันด้วย ล้อเป็นลายพิเศษขนาด 9 x 19 นิ้ว ในด้านหน้า และ 10 x 20 นิ้ว ในด้านหลัง มาพร้อมกับยาง Michelin Pilot Sport Cup 2

ภายในตกแต่งด้วยสีทูโทนระหว่างวัสดุหนังสีดำ Silverstone และ Alcantara บุเต็มรอบห้องโดยสาร รวมถึงแผงแดชบอร์ดที่มีการปักชื่อ CS เอาไว้ด้วย ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ยังอยู่ครบทั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เครื่องเสียงจาก Harman Kardon และระบบนำทาง Professional ส่วนพวงมาลัยมาพร้อม Paddle Shift ทั้งยังมีปุ่มปรับรูปแบบการขับขี่ ที่มีผลต่อพวงมาลัยและช่วงล่างด้วย

ขุมพลังของ BMW M3 CS เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร 2,979 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.6 x 84.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.1 : 1 ให้กำลังสูงสุด 460 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 4,000 – 5,380 รอบ/นาที

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ M DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุดเมื่อติดตั้ง M Driver’s Package จำกัดไว้ที่ 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนช่วงล่างทำจากวัสดุ Forged ทั้งหน้าหลังแบบเดียวกับ M3 Competition Package ทำให้น้ำหนักเบา และยังมีระบบ Adaptive M Suspension ให้ด้วย

ระบบควบคุมการทรงตัว DSC และ Active M Differential ใน BMW M3 CS ยังได้รับการปรับแต่งมาให้รองรับรูปแบบการขับขี่แบบ M Dynamic Mode อีกด้วย สำหรับจำนวนการผลิตจำกัดไว้ที่ 1,200 คัน มีกำหนดเปิดรับจองในเดือนมกราคม 2018 และจะเริ่มผลิตในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน

ที่มา: bmwgroup