ตัวจิ๊ดน้องเล็กประจำค่ายใบพัดฟ้าขาว ได้แรงกว่าที่เคยกับรหัส BMW M2 Competition ที่พกพากำลังมาสูงถึง 410 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ จากรุ่นพี่อย่าง BMW M3 และ M4 ทั้งยังมีการตกแต่งภายนอกและภายใน ให้แตกต่างจากรุ่นปกติอีกด้วย

ภายนอกของ BMW M2 Competition มาพร้อมกับกระจกมองข้างทรงใหม่ เสริมด้วยไฟหน้า Adaptive LED, กระจังหน้าสีดำเงา และกันชนหน้าทรงใหม่ ที่ช่องดักลมใหญ่กว่าเดิม ด้านข้างตกแต่งขอบกระจกด้วยสีดำเงา และเปลี่ยนมาใช้ล้อ Forged น้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว

ด้านหลังเปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ เป็นแบบปลายคู่ออก 2 ฝั่ง มาพร้อมระบบควบคุมวาล์วด้วยไฟฟ้า 2 ตัว สีตัวถังเพิ่มทางเลือกใหม่มาให้ 2 สี ประกอบไปด้วย สีเงิน Hockenheim Silver Metallic ที่มีให้เลือกใน BMW M2 Competition เท่านั้น และสีส้ม Sunset Orange Metallic

ห้องโดยสารได้รับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่หลายชิ้นทั้ง พวงมาลัย M Steering พร้อมปุ่มกด M1 – M2, เบาะ M Sport Seat ปักตรา M2 เรืองแสง หุ้มด้วยหนังและผ้า ที่เลือกสีได้ระหว่าง สีดำ/สีส้ม และ สีดำ/สีน้ำเงิน นอกจากนั้น ยังเปลี่ยนหน้าปัดไปใช้แบบ Black Panel

BMW M2 Competition ยังเพิ่มเข็มขัดนิรภัย M Seat Belts, กันเตะประตูพร้อมชื่อรุ่น และปุ่ม Start/Stop สีแดง ส่วนแดชบอร์ดตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ M Double Clutch จะมีระบบ Drivelogic มาให้

ขุมพลังของ BMW M2 Competition เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ N55B30 ไปใช้แบบ S55B30 เทอร์โบคู่ เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง BMW M3 / M4 เป็นที่เรียบร้อย

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร 2,979 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.6 x 84.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1 ให้กำลังสูงสุด 410 แรงม้า ที่ 5,250 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,350 – 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ M Double Clutch 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง

ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.2 – 4.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ เพิ่มเป็น 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อติดตั้ง M Drivers Package ปลดล็อคความเร็ว

นอกจากนี้ห้องเครื่องยนต์ของ BMW M2 Competition ยังเพิ่มค้ำโช๊ค CFRP มาให้ด้วย มีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนน้ำมันเครื่องมี Oil Cooler มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และ ในรุ่นเกียร์ M Double Clutch 7 จังหวะ มี Oil Cooler สำหรับน้ำมันเกียร์อีกด้วย ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดา ใช้อ่างน้ำมันเกียร์แบบ Wet Sump พร้อมระบบ RevMatching

ปิดท้ายกับระบบเบรกที่สามารถติดตั้ง M Sport Brakes เพิ่มได้ เพิ่มขนาดจานเบรกคูหน้าเป็น 400 มิลลิเมตร ด้านหลังเพิ่มเป็น 380 มิลลิเมตร คาลิเปอร์สีเทาพร้อมผ้าเบรกขนาดโตกว่าปกติ ด้านหน้าเป็นคาลิเปอร์ 6 Pot และด้านหลังเป็นคาลิเปอร์แบบ 4 Pot

อัตราทดเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

  • เกียร์ 1  4.110
  • เกียร์ 2  2.315
  • เกียร์ 3  1.542
  • เกียร์ 4  1.179
  • เกียร์ 5  1.000
  • เกียร์ 6  0.846
  • เกียร์ถอยหลัง  3.727
  • อัตราทดเฟืองท้าย  3.462

อัตราทดเกียร์ M Double Clutch 7 จังหวะ

  • เกียร์ 1  4.806
  • เกียร์ 2  2.593
  • เกียร์ 3  1.701
  • เกียร์ 4  1.277
  • เกียร์ 5  1.000
  • เกียร์ 6  0.844
  • เกียร์ 7  0.671
  • เกียร์ถอยหลัง  4.172
  • อัตราทดเฟืองท้าย  3.462

ล้อ และ ยางที่ใช้ คู่หน้า ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/35 ZR19 ส่วนคู่หลังใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 265/35 ZR19

M2 Competition มีขนาดมิติตัวถัง

  • ยาว 4,461 มิลลิเมตร
  • กว้าง 1,854 มิลลิเมตร
  • สูง 1,410 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ 2,693 มิลลิเมตร
  • ระยะความกว้าง ล้อหน้า 1,579 มิลลิเมตร
  • ระยะความกว้าง ล้อหลัง 1,601 มิลลิเมตร
  • ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร
  • ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd = 0.36

M2 Competition เป็นการเอาพละกำลังของรุ่นพี่ M3 / M4 ทั้งอุปกรณ์ และ ชุดควบคุมการขับขี่แบบเดียวกัน เข้ามาอยู่บนตัวถังที่มีขนาดเล็กกว่า คาดว่าน่าจะเพิ่มความสนุกให้กับเจ้าเล็กพริกขี้หนูนี้เพิ่มมากขึ้น

 

ที่มา: BMW