ในที่สุด BMW ได้ทำตามเป้าหมายที่ตนได้วางเอาไว้เมื่อต้นปีว่า ตนต้องการที่จะมียอดขายรถยนต์หรูเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน และพวกเขาสามารถทำได้ตั้งแต่ 11 เดือนแรก ด้วยตัวเลขยอดขายสะสม 542,362 คัน ซึ่งสูงขึ้น 15% ตามมาด้วย Mercedes-Benz ในอันดับ 2 และ Audi ในอันดับ 3 ที่ยอดตกจนต้องเสียตำแหน่งรองแชมป์ ไปให้ค่ายดาวสามแฉก

สำหรับยอดขายสะสมของ Top 3 รถยนต์หรูในประเทศจีน ระหว่างเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2017 มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • BMW มียอดขายสะสม 542,362 คัน (สูงขึ้น 15%)
  • Mercedes-Benz มียอดขายสะสม 539,728 คัน (สูงขึ้น 27%)
  • Audi มียอดขายสะสม 528,706 คัน (ลดลง 2.1%)

สาเหตุที่ Audi ผู้ที่เคยครองแชมป์อันดับ 2 มียอดขายลดลงรายเดียวในตาราง เนื่องจากบริษัทเคยมีข้อพิพาทกับผู้จำหน่ายรถยนต์ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลัง Audi พิจารณาที่จะให้ SAIC มาร่วมเป็นผู้จำหน่ายด้วย จากเดิมที่ผูกขาดโดย FAW Group อยู่รายเดียว ทำให้ผู้จำหน่ายมองว่าตนจะเสียผลประโยชน์ นำไปสู่การต่อต้าน จนยอดขายลดลงดังที่เห็น

ต่อมา Audi ประกาศยกเลิกแนวคิดดังกล่าว ทำให้ผู้จำหน่ายกลับมาช่วยกันทำมาหากินอีกครั้ง ยอดขายจึงเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่ก็ไม่มากพอที่จะรักษาตำแหน่งอันดับ 2 เอาไว้ได้ ส่วนแชมป์อันดับ 1 นั้น มีรายงานว่า BMW มีแผนที่จะเจรจากับ Great Wall Motor เพื่อร่วมกันผลิต MINI ในประเทศจีน เพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์เอาไว้

นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า BMW และ Great Wall Motor อาจร่วมกันผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ใหม่ในรูปแบบเดียวกับ Denza ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมระหว่าง Mercedes-Benz และ BYD ดูแล้วการแข่งขันของ 3 ค่ายรถยนต์หรูในประเทศจีน ยังมีอะไรให้ติดตามกันอีกเยอะ แต่อันดับจะเปลี่ยนไปในทิศทางใดนั้น โปรดติดตามชม

 

ที่มา: autonews, carscoops