หลังจากที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2011 BMW 1-Series สามารถสร้างยอดขายสะสมทั่วโลกได้สูงถึง 1 ล้านคัน โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรปที่กวาดส่วนแบ่งไปมากกว่า 70% รองลงมาเป็นเยอรมัน, อังกฤษและจีน และในปี 2017 จึงถึงเวลาของ BMW 1-Series LCI ที่ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้สดใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมขุมพลังทั้งเบนซิน และดีเซลพ่วงเทอร์โบขนาด 3-4 สูบ ไล่ระดับความแรงมากถึง 9 รุ่นให้เลือก
ภายนอกของ BMW 1-Series LCI มาพร้อมกับรุ่นย่อยการตกแต่งแบบใหม่ในชื่อ Sport Line Shadow, M Sport Shadow และ M140i Edition Shadow โดยมีส่วนที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า ในส่วนของไฟหน้า LED โคมดำ, กระจังหน้าไตคู่สีดำ, ไฟท้ายรมดำ และปลายท่อเสียโครเมี่ยมสีดำ
เฉดสีตัวถังที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน BMW 1-Series LCI มี 2 สี ประกอบไปด้วย สีส้ม Sunset Orange และสีน้ำเงิน Seaside Blue นอกจากนี้ยังมีล้อลายใหม่เข้ามาอีก 5 ลาย ประกอบไปด้วย Style 725 Sport ขนาด 17 นิ้ว, Style 724 Urban ขนาด 17 นิ้ว, Style 719 M Bicolour Jet Black ขนาด 18 นิ้ว, Style 719 M Jet Black ขนาด 18 นิ้ว และ Style 436 M Orbit Grey ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งอย่างหลังสุดเป็นของ M140i xDrive
ภายในของ BMW 1-Series LCI มีการเปลี่ยนแปลงหลายรายการ เริ่มต้นกับหน้าปัดพื้นสีดำ, แผงแดชบอร์ดเดินด้าย พร้อมตกแต่งโครเมี่ยมและออกแบบให้มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น, คอลโซลกลางสีดำเงา, สวิตช์เปิด-ปิดกระจกโครเมี่ยม, ช่องแอร์รูปแบบใหม่, วัสดุหนังหุ้มเบาะแบบใหม่, ที่วางแก้วพร้อมฝาปิด, เก๊ะเก็บของดีไซน์ใหม่ และระบบ Infotainment รุ่นใหม่พร้อม Bluetooth
BMW 1-Series LCI มีขุมพลังให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ไล่เรียงตามลำดับความแรงได้มากถึง 9 ระดับ ซึ่งข้อมูลในแต่ละรุ่น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
BMW 116i
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า (PS) ที่ 4,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.35 กก-ม. (180 นิวตันเมตร) ที่ 1,250 – 4,250 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 10.9 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 195 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 118i
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.43 กก-ม. (220 นิวตันเมตร) ที่ 1,250 – 4,300 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.5 และ 8.7 วินาที ตามลำดับ ความเร็วสูงสุดของทั้งคู่อยู่ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 120i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 187 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 29.57 กก-ม. (290 นิวตันเมตร) ที่ 1,350 – 4,250 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ จะลดสมรรถนะลงเหลือแรงบิดสูงสุด 27.53 กก-ม. (270 นิวตันเมตร) ที่ 1,350 – 4,600 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.1 วินาทีเช่นกัน แต่ความเร็วสูงสุดลดเหลือ 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 125i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.61 กก-ม. (310 นิวตันเมตร) ที่ 1,400 – 5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW M140i/ BMW M140i xDrive
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 345 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50.98 กก-ม. (500 นิวตันเมตร) ที่ 1,520 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.8 หรือ 4.6 วินาทีตามลำดับ ความเร็วสูงสุดของทั้งคู่จำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในรุ่น xDrive จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานร่วมกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดยังคงจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 116d/ BMW 116d EfficientDynamics Edition
เครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 27.53 กก-ม. (270 นิวตันเมตร) ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ทั้งคู่ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 10.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทั้งนี้ในรุ่น BMW 116d EfficientDynamics Edition ใช้ขุมพลังร่วมกันแต่จะมีแต่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น แต่สมรรถนะด้อยกว่าด้วยตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 10.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 195 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 118d/ BMW 118d xDrive
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.63 กก-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 1,500 – 3,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.3 หรือ 8.1 วินาทีตามลำดับ ความเร็วสูงสุดของทั้งคู่อยู่ที่ 212 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในรุ่น xDrive จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานร่วมกับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 120d/ BMW 120d xDrive
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.78 กก-ม. (400 นิวตันเมตร) ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.1 หรือ 7.0 วินาทีตามลำดับ ความเร็วสูงสุดของทั้งคู่อยู่ที่ 228 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในรุ่น xDrive จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานร่วมกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 222 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 125d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.88 กก-ม. (450 นิวตันเมตร) ที่ 1,500 – 3,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW 1-Series LCI มีให้เลือกทั้งตัวถัง 3 ประตูและตัวถัง 5 ประตูเช่นเคย มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ สำหรับโรงงานที่ประกอบ BMW 1-Series LCI มีอยู่ด้วยกัน 4 แห่งซึ่งตั้งอยู่ใน 3 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประเทศเยอรมันที่ Regensburg และที่ Leipzig, ประเทศอินเดียที่ Chennai และ ประเทศไทย ที่ จ.ระยอง
ที่มา: press.bmwgroup