สามบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ที่ยึดครองตลาดมานานในสหรัฐฯ ประกอบด้วย Ford, General Motors และ Stellantis (อดีต Fiat – Chrysler) มียอดผลิตรถยนต์สูงกว่าบริษัทรถยนต์ต่างชาติมานานนม แต่ล่าสุดจากสถิติผลิตรถยนต์ตลอดปี 2023 พบว่าสามบริษัทนี้ได้สูญเสียแชมป์ยอดผลิตรถยนต์ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติเป็นครั้งแรก หลังทั้งสามมียอดผลิตรถยนต์ที่นั่น รวมกันราว 4.6 ล้านคัน ลดลงจากปี 2022 ราว 150,000 คัน
ส่วนผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติรวมถึง Toyota และ Mercedes-Benz มียอดผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ในปี 2023 อยู่ราว 4.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ราว 5 แสนคัน อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นที่มีมีสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง Tesla, Lucid และ Rivian อีก 754,342 คัน จะพบว่าผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ยังไม่สูญเสียเอกราช เพราะยอดรวมกันทุกแบรนด์จะที่ราว 5.4 ล้านคัน หรือยังครองแชมป์อยู่นั่นเอง
มีการเปิดเผยสถิติด้วยว่า ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ มากกว่า 85% ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ส่วนยอดผลิตรถยนต์จากสามบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ลดลงไปกว่าครึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เพียงแต่สูญเสียส่วนแบ่งให้กับผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศอื่น แต่ทั้งสามบริษัทยังขยายการผลิตรถยนต์ไปยังประเทศอื่นรวมถึงเม็กซิโก, แคนาดา และจีน
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ใน 9 รัฐของสหรัฐฯ และถ้านับโรงงานอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างโรงงานผลิตชิ้นส่วน และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ด้วย จะพบว่าอาณาเขตได้ขยายเป็น 13 รัฐ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ทางใต้ การเติบโตของผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติทำให้ United Auto Workers (UAW) หรือ สหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ พยายามเข้าไปจัดตั้งองค์กรในบริษัทต่างชาติด้วย ไม่ได้สงวนไว้กับบริษัทอเมริกันอย่างเดียว เพื่อเป็นการรักษาระดับอำนาจในการเจรจา กับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไป
ที่มา: detroitnews, jalopnik