Bentley เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมกระแสรถยนต์ใส่ถ่าน และเริ่มต้นก้าวแรกด้วยการส่ง Bentley Bentayga Hybrid เข้าสู่ตลาดในฐานะรถยนต์ Plug-in Hybrid คันแรกของค่าย โดยรถยนต์ SUV คันนี้จะเป็นใบเบิกทางสำหรับการมุ่งสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทด้วย เนื่องจากทางการมีแผนติดตั้งระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทุกรุ่นของค่าย ให้ครบถ้วนในปี 2023
ขุมพลังของ Bentley Bentayga Hybrid เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous กำลังสูงสุด 127 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ทั้งระบบให้แรงบิดรวมกัน 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 254 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แบตเตอรี่ของระบบ Plug in Hybrid สามารถชาร์จเต็มได้ใน 2 ชั่วโมงครึ่ง และเก็บพลังงานได้มากพอที่จะ ขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 39 กิโลเมตร หากเชื้อเพลิงเต็มถัง จะสามารถขับขี่เป็นระยะทางสูงสุด 747 กิโลเมตร ด้านรูปแบบการขับขี่ปรับได้ 3 รูปแบบ ดังนี้
- EV Mode: ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
- Hybrid Mode: ขับขี่ด้วยการผสมผสานพลังงานจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า
- Hold Mode: ขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในภายหลัง
Bentley Bentayga Hybrid สามารถนำพลังงานที่เกิดจากการเบรก กลับไปเก็บในแบตเตอรี่ใหม่ได้ตลอดการขับขี่ ไม่ว่าจะเลือกใช้รูปแบบการขับขี่ใดอยู่ก็ตาม นอกจากนั้น ยังทำงานร่วมกับระบบนำทางเพื่อนำข้อมูลที่มีในระบบ มาปรับการทำงานของระบบโดยอัตโนมัติว่า ช่วงใดควรใช้พลังงานจากแหล่งไหน เพื่อความประหยัดสูงสุด
Bentley Bentayga Hybrid เปิดรับจองแล้วในยุโรป คาดว่าจะพร้อมส่งมอบในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 ทุกคันผลิตขึ้นที่โรงงานในเขต Crewe ประเทศอังกฤษ และประกอบด้วยมือ โดยใช้เวลา 130 ชั่วโมงต่อการผลิตรถยนต์ 1 คัน ด้านราคาจำหน่ายที่อังกฤษซึ่งยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทยเริ่มต้นที่ 133,100 ปอนด์ (ราว 4,993,000 บาท)
ที่มา: Bentley