นับตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ที่ผลักดันให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งมวลชน หลายคนที่กำลังไม่มากจึงเลือกที่จะออกรถยนต์มือสอง ต่อเนื่องมาถึงสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจนชิ้นส่วนขาดแคลน ส่งผลให้ธุรกิจรถยนต์ใหม่ชะงักงัน ไม่ว่าจะเป็นราคาที่แพงขึ้นหรือการส่งมอบที่ล่าช้า ผู้บริโภคจึงจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์คันเดิมต่อไป ทั้งหมดนี้ส่งผลให้อายุการใช้งานรถยนต์โดยเฉลี่ยในสหรัฐฯ ปี 2023 เพิ่มขึ้นเป็น 12.5 ปี

 

S&P Global Mobility เป็นผู้เปิดเผยสถิติดังกล่าวพร้อมระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงสุดในประวัติศาสตร์อีกครั้ง และพุ่งสูงขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 6 สำหรับอายุการใช้งานรถยนต์โดยเฉลี่ยในสหรัฐฯ ปี 2022 อยู่ที่ 12.2 ปี ส่วนจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่โลดแล่นอยู่บนถนนในสหรัฐฯ อยู่ที่ 284 ล้านคัน โดยเกือบ 63% ของรถยนต์ทั้งหมดเป็น SUV และรถกระบะ

หากมองเฉพาะสัดส่วนรถยนต์ที่จดทะเบียนใหม่ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2022 จะพบว่า SUV และรถกระบะ ยังเป็นประชากรส่วนใหญ่อยู่ โดยมีสัดส่วนถึง 78% นอกจากนั้น สถิติยังแยกส่วนออกมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV พบว่าอายุการใช้งาน EV โดยเฉลี่ยในสหรัฐฯ ลดลงจากปีก่อนหน้า 1 เดือนเหลือ 3.6 ปี เหตุเพราะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนมากขึ้น ส่วนจำนวนประชากร EV บนถนนในสหรัฐฯ ทั้งหมดอยู่ที่ 2.12 ล้านคัน

 

ที่มา: thedrive, motor1